สรุปข่าว 19.35 น.
+++นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็น เด็ก เยาวชนและประชาชน เกี่ยวกับ “วันมาฆบูชา” พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยบะ 94.41 เห็ยด้วย การฟื้นฟูและเผยแพร่องค์ความรู้ “พระราชพิธีการถวายเทียนรุ่ง” (เทียนรุ่ง คือ เทียนจุดบูชาตั้งแต่หัวค่ำจนถึงรุ่งเช้า (ตลอดคืน) ซึ่งกองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง จัดเตรียมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงเจิมและพระราชทานอุทิศไปจุดบูชาพระรัตนตรัยในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวันมาฆบูชาตามวัดสำคัญในกรุงเทพฯ ส่วนกิจกรรมที่ประชาชนจะทำในวันมาฆบูชาพบว่า ร้อยละ 69.10 บอกว่าตั้งใจจะทำบุญ รองลงมาร้อยละ 67.11 ไปตักบาตร ร้อยละ 54.24 เวียนเทียน
+++การสืบพยานคดีครูจอมทรัพย์ ที่ศาลจังหวัดนครพนม เข้มข้นในวันสุดท้าย หลังฝ่ายคัดค้านคือ อัยการ นำ นายเสริฐ รูปสะอาด พยานปากสำคัญขึ้นเบิกความ ระบุถึงการถูกคนกลุ่มหนึ่งว่าจ้างให้รับสมอ้าง เป็นคนขับรถทะเบียน บค 56 มุกดาหารนอกจาก นายเสริฐ แล้วยัง มีพยานปากสำคัญอีกคน คือ นายอุบล ไชยบัน ขึ้นเบิกความยืนยันว่า รถยนต์ ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ซื้อมาตั้งแต่ปี 2547 จาก นายสับ วาปี และในช่วงปี 2548 ซึ่งตามคำให้การของนายสับ วาปี ที่เคยออกมาอ้างว่าเป็นคนขับรถยนต์ชนคนตายตัวจริงในคดี รถยนต์คันนี้ไม่เคยขับไปไหน ด้าน นายเสริฐ รูปสะอาด พยานสำคัญอีกปากของฝ่ายผู้คัดค้าน เปิดเผยภายหลังขึ้นเบิกต่อศาลว่า ยืนยันว่า มี นายสุริยา นวนเจริญ ซึ่งรู้จักกันเนื่องจากทำธุรกิจค้าไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ ส่วนตนรับจ้างตัดไม้ จึงมีการติดต่อทาบทามตน รวมถึงนายสับ วาปี ไปที่ สภ.เรณูนคร เพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นคนขับรถชนคนตายโดยมีการตกลงเงินว่าจ้าง จำนวน 2 แสนบาท ซึ่งยอมรับว่าไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับคดีนี้ และเชื่อมั่น นายสุริยา นวนเจริญ หรือ ครูอ๋อง ว่า น่าจะไม่มีปัญหาเรื่องติดคุก และส่วนหนึ่งอยากได้เงินมาใช้จ่ายในครอบครัวให้ลูกเรียนหนังสือ จนมาวันนี้ตนได้พูดไปตามความจริง
+++สำหรับการสืบพยานวันที่สาม ในภาคเช้า มี ครูจอมทรัพย์ รวมถึงทีมกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม ที่เป็นฝ่ายผู้ร้องเข้าร่วมฟังการสืบพยานด้วย ส่วนทางฝ่ายผู้คัดค้าน คือ ตำรวจ ได้นำพยานมาเบิกความอีก 6 ปาก มีบุคคลสำคัญที่เป็นพยานปากเอก คือ พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ อดีต ส.ว.มุกดาหาร ซึ่งถือเป็นพยานที่เคยออกมาให้การกับตำรวจ ว่า เคยมีกลุ่มพยานของ นายสับ วาปี รวมถึง นายเสริฐ รูปสะอาด และพวก ไปพบเพื่อปรึกษาหารือ หาทางช่วยเหลือครูจอมทรัพย์
+++ศาลปกครอง ยกคำร้องของ ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และนายอัครพงศ์ ทีปวัชระ อดีตผู้อำนวยการสำนักการค้าข้าวต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ผู้ฟ้องคดีใน 5 คดี ชดใช้ค่าเสียหายจากการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี รวมมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยขอให้ทุเลาคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ ที่ ให้ชดใช้ค่าเสียหาย
โดยศาลได้ระบุเหตุผลว่า การที่ศาลจะมีอำนาจออกคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งพิพาทในระหว่างพิจารณาคดีได้นั้นจะต้องมีการบังคับใช้ก่อน แต่ปรากฎว่าในคดียังไม่มีการใช้มาตรการบังคับทางปกครอง โดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 และขายทอดตลาดเพื่อชำระค่าสินไหมทดแทนแต่อย่างใด ในชั้นนี้จึงยังไม่อาจรับฟังได้ว่า คำสั่งพิพาทน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย บผู้ฟ้องทั้งห้าคดีถูกเรียกค่าเสียหายให้ชดใช้รวมมูลค่ากว่าสองหมื่นล้านบาท โดยแยกดังนี้ นายบุญทรง ต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 1,770 ล้านบาท นายภูมิ 2,300 ล้านบาท นายมนัส นายทฆัมพร และนายอัครพงศ์ รายละ 4,000 ล้านบาท
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทยปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,585.24 จุด เพิ่มขึ้น 1.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,437.25 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบ ยืนในแดนบวกได้เล็กน้อย เนื่องจากตลาดฯยังไม่มีปัจจัยอะไรเข้ามา ขณะที่ปัจจัยนอกประเทศได้ จากนโยบายของ"ทรัมป์"ที่จะมีมาตรการลดภาษีครั้งใหญ่ ซึ่งจะประกาศออกมาในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า ทำให้ยังไม่มีใครกล้าลดน้ำหนักการลงทุนในสหรัฐฯ
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดทะยานขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ให้คำมั่นว่าจะประกาศแผนปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ปิดพุ่งขึ้น 471.26 จุด ที่ 19,378.93 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขานรับข่าวที่ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เตรียมประกาศแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้างเพิ่มขึ้น 49.84 จุด ปิดวันนี้ที่ 23,574.98 จุด
+++พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าคดีทุจริตการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอกบรรจุเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ว่า จนถึงขณะนี้ได้ออกหมายจับผู้กระทำผิดไป 2 รอบแล้ว รวม 87 ราย โดยรอบแรกจำนวน 52 ราย ส่วนรอบที่สองจำนวน 35 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รับจ้างทำข้อสอบ หรือมือปืน 65 ราย ส่วนที่เหลือ คือ กลุ่มตัวการ และ ผู้ลอกข้อสอบ ซึ่งในสำนวนการสอบสวนมีทั้งให้การรับสารภาพ และปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาล อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการสอบสวนพยานจำนวน 100 กว่าปาก รวมทั้งรวบรวมหลักฐานต่างๆ ได้แบ่งผู้กระทำความผิดเป็นกลุ่มต่างๆ ทั้งหมด 11 กลุ่ม ในแต่ละชุดจะมีความเชื่อมโยงกัน จากการตรวจสอบทั้ง 11 ชุด จะมีผู้ต้องหาเกือบ 300 คน ซึ่งจำนวนในขณะนี้ยังไม่แน่นอน โดยมี นายจิรพจน์ พลายด้วง เจ้าหน้าที่เทศกิจสำนักงานเขตปทุมวัน เป็นตัวการใหญ่สุด รองลงมา คือ กลุ่ม นายหน้าหรือ สถาบันกวดวิชาบางแห่ง ที่ติดต่อจัดหามือปืน คาดว่าจะสรุปสำนวนส่งฟ้องให้พนักงานอัยการภายใน 2 เดือนจากนี้
+++นายสุพจน์ เตชวรสินสกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพร้อมที่จะให้ นิสิตคณะวิศวกรรม ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเข้าพบ 14 ก.พ. นี้ หลัง ออกมาเรียกร้องไม่เห็นด้วยที่ทางคณะออกกฎให้นิสิตเเต่งกายให้เรียบร้อยเเละให้ใส่ชุดนิสิตเเม้จะไม่มีเรียนก็ตามว่า เป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนจนเกิดการขยายประเด็น โดยกฎการเเต่งกายของนิสิตมี 2 รูปแบบคือหากเข้ามาในบริเวณคณะเเละมหาวิทยาลัย ต้องเเต่งกายด้วยชุดนิสิตหรือชุดปฏิบัติตามที่อาจารย์วิชานั้นๆกำหนด เเละการเเต่งกายด้วยชุดสุภาพเพื่อมาทำกิจกรรมต่างๆบริเวณคณะ ไม่สวมกางเกงขาสั้น รองเท้าเเตะ เเต่ทั้งนี้จะมีการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษสำหรับบางกิจกรรม เช่น กิจกรรมเชียร์ งานลอยกระทงที่สามารถใส่ชุดที่สามารถทำงานได้อย่างคล่องเเคล่วได้ ส่วนที่มีการประกาศติดป้ายอาจจะมีการตัดสิทธิ์ทุนหรืออาจไม่ได้รับเกียรตินิยมนั้น ไม่ได้ทำถึงขนาดนั้นเพียงเเค่หักคะเเนนเเละเรียกตักเตือน เเต่ที่ต้องออกกฎเพราะระยะหลังมีนิสิตที่เเต่งกายไม่สุภาพค่อนข้างจำนวนมาก
+++วุฒิสภาสหรัฐฯลงมติด้วยคะแนน 52 ต่อ 47 เสียง ยืนยันให้นายทอม ไพรซ์ วัย 62 ปี เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขตามข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นับเป็นการแต่งตั้งผู้วิจารณ์นโยบายประกันสุขภาพถ้วนหน้า(โอบามาแคร์)ของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ให้ดำเนินการตามคำมั่นของนายทรัมป์ที่จะแก้ไขกฎหมายปฏิรูประบบสาธารณสุขของสหรัฐฯ แต่นางเอลิซาเบ็ธ วอร์เรนและนายรอน ไวเดน สว.พรรคเดโมแครตคัดค้านการแต่งตั้งนายไพรซ์เข้าดำรงตำแหน่งนี้ ระหว่างการอภิปรายที่ยืดเยื้อมาหลายชั่วโมงก่อนการลงมติเมื่อเวลา 02.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ระบุว่านายไพรซ์จะสร้างผลกระทบแก่ชาวอเมริกัน 20 ล้านคนที่เคยได้รับประโยชน์จากระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าในยุครัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโอบามา