โฆษกบช.ปส. ย้ำไซซะนะทำผิดในไทย อายัดทรัพย์ลัมโบกินี บิ๊คไบค์ ในครอบครองของเบนซ์เรซซิ่ง

การขยายผลอายัดทรัพย์ในเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายไซซะนะ แก้มพิมพา พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พลตำรวจตรีสุนทร เฉลิมเกียรติ ผู้บังคับการประจำกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)และในฐานะโฆษกของ บช.ปส. เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวเลข หรือจำนวนทรัพย์สินทั้งหมดของนายไซซะนะได้ ต้องรอข้อมูลจากหลายหน่วยงาน ทั้งในไทยและสาธาณรัฐประชาชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว )คาดว่า ยังไม่สามารถสรุปได้ในเร็วๆนี้  สำหรับผลการตรวจสอบรถลัมโบกินี ของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง  มีความคืบหน้าไปมาก แต่การตรวจสอบทะเบียนรถ กจ51 กรุงเทพมหานครนั้น ต้องรอข้อมูลจากหลายหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง  

เบื้องต้น มีการอายัดทรัพย์ของนายอัครกิตติ์ 2รายการ คือ รถลัมโบกินี และ บิ๊กไบค์  ยี่ห้อเคทีเอ็ม สีส้ม-ดำ  ซึ่งมีชื่อนายอัครกิตติ์เป็นผู้ครอบครอง ขณะที่การอายัดทรัพย์ของนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย ได้อายัดทรัพย์ ทั้งสิ้น12 รายการแล้ว

ส่วนกรณีที่มีชาวสาธาณรัฐประชาชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) เรียกร้องผ่านโซเชียลมีเดียว่าต้องการให้ส่งตัวนายไซซะนะกลับสปป.ลาว พลตำรวจตรีสุนทร กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็น เพราะนายไซซะนะ กระทำผิดในไทย ตำรวจมีอำนาจในการดำเนินคดีตามกฎหมาย  รวมถึงที่นายสีสุก ดาวเฮือง หรือ เสี่ยเตื้อง  ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กถึงความสัมพันธ์ ระหว่างตนกับนายไซซะนะ โดยระบุทำนองว่า เป็นเพื่อนกับนายไซซะนะจริง แต่ไม่ทราบเรื่องการค้ายาเสพติด ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่สามารถชี้แจงได้ อย่างไรก็ตามการสืบสวนของตำรวจบช.ปส.มีข้อมูลที่สงสัย ว่า ทั้ง2คนอาจมีความเกี่ยวข้องกันในเรื่องค้ายาเสพติด หรือทรัพย์สิน ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน