มส.ประกาศให้วัดไทยทั่วโลกย่ำระฆัง 12 ก.พ./ปส.-ป.ป.ส.แถลงจับเครือข่ายยาเสพติดภาคใต้

+++ในวันนี้ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะเดินทางไปกราบถวายสักการะถวายฎีกานิมนต์สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เพื่อเข้ารับสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม         ทั้งนี้ ขั้นตอนในวันที่ 12 กุมภาพันธ์จะเป็นในส่วนของสำนักพระราชวังทั้งหมด

+++ส่วนการเตรียมความพร้อมพื้นที่บริเวณวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เพื่อเตรียมงานสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับให้ช่วยดูแลสภาพแวดล้อมความสะอาดของสถานที่ เพื่อให้รองรับกับศรัทธาของประชาชน อีกทั้งทางวัดได้รับบัญชาจากสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 มาว่าในการจัดงานต้องไม่ให้เอิกเกริก ขอให้มีความเรียบง่าย ไม่ได้เน้นความสวยงาม แต่จะเน้นเรื่องความสะอาด โดยเฉพาะการทำความสะอาดท่อน้ำทิ้ง ดูแลเรื่องต้นไม้และไฟส่องสว่าง โดยมีหน่วยงานจากกรุงเทพมหานคร( กทม.)และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เข้ามาช่วย ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประจำการ รวมทั้งประสาน กทม.เปิดลานคนเมืองให้ประชาชนนำรถเข้าไปจอดได้ และเปิดพื้นที่กระทรวงมหาดไทยให้เป็นที่จอดรถของพระผู้ใหญ่

+++นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า วัดราชบพิธฯ เป็น 1 ใน 5 วัดในโลก ที่ยังคงมีพิธีจุดเทียนยังรุ่ง หมายถึง จุดเทียนยันสว่าง โดยคำว่า ยัง คือ ยัน  ซึ่งเทียนที่ใช้จุดนี้เป็นเทียนที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานมา ทางวัดจะจุดตั้งแต่เวลา 18.00 ของวันที่ 11ก.พ. จนถึงเช้าเวลา06.00 น. ของวันที่ 12 ก.พ. ขณะเดียวกันจะมีการเทศน์ 13 กัณฑ์ คือเทศน์ยันเช้าจนกว่าเทียนจะดับ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเข้าร่วมพิธีเดินเทียนช่วงใดก็ได้ ตลอดทั้งคืน โดยทางวัดและกระทรวงมหาดไทยจะเตรียมเทียนไว้ให้

+++นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการ พศ.และเลขาธิการมหาเถรสมาคม(มส.) ออกประกาศให้วัดไทยในประเทศไทยและวัดไทยทั่วโลก ประชุมสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาและย่ำระฆัง ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00 น. โดยพร้อมเพรียงกัน สำหรับเวลาที่แน่นอนโปรดชมการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยและถ่ายทอดเสียงทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

+++สภาพอากาศในช่วงนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 4-8 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและคลื่นลมจะมีกำลังแรงขึ้น

+++การขยายผลติดตามเรื่องยาเสพติด ความคืบหน้าการตรวจยึดทรัพย์สินเครือข่าย นายไซซะนะ แก้วพิมพา พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส.กล่าวว่า  ป.ป.ส. จะสรุปรายการอายัดทรัพย์สินได้ทันภายในวันนี้ ส่วนเรื่องการตรวจสอบบัญชี และเส้นทางการเงินของขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าว อาจทราบความชัดเจนในสัปดาห์หน้า เนื่องจากมีบัญชีรายการทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ส่วนกรณีการเรียกสอบปากคำพยานหรือผู้ต้องสงสัย ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการถือครองทรัพย์สินของเครือข่ายนายไซซะนะ จะมีการเรียก นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะเชิญเข้าให้ปากคำอีกครั้ง

+++พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้มีหนังสือคำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินของนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย 12 รายการ หนึ่งในนี้มีรถลัมโบร์กีนี 1 คัน รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ฟอร์จูนเนอร์ ฯลฯ อายัดไว้ตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่

+++ขณะที่ 15.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจปส. และ ป.ป.ส. แถลงจับเครือข่ายยาเสพติดภาคใต้ หลังจากที่ตำรวจมาเลเซีย จับนายคามะลูดีน บิน อาหว่อง จากการตรวจสอบ เชื่อว่านายคามะลูดีนก็คือนายไซนุเด็ง มะ ลูกเขยนายมะรินิง จาโก หัวหน้าเครือข่ายรับยาเสพติดจากทางภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งตำรวจเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวมานานกว่า 5 ปี พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. จึงได้สั่งการให้ส่งทีมไปขอสอบปากคำนายคามะลูดีน และอาจขอส่งตัวมาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

+++ส่วนอีกคดีที่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดชุด ปป.5 ร่วมกับชุด ปส.ภาค 9 และด่านตรวจควนมีด อ.จะนะ จ.สงขลา ร่วมกันตรวจค้นรถฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน ขง 1443 สงขลา มีนายจิตรภาณุ แซ่เฮง เป็นคนขับ และนางบุหลัน ธารีสืบ ชาวอ. สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นั่งมาด้วย เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่พบเงินสดประมาณ 1 ล้านบาท จึงนำผู้ต้องหาไปสอบขยายผล จากนั้นเข้าตรวจค้นภายในห้องพักเลขที่ 255/516 พลัสคอนโด ถนนราษฎร์อุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบเงินสดธนบัตรไทย จำนวน 41 ล้านบาท ธนบัตรมาเลเซีย 1.5 ล้านริงกิต และเครื่องประดับอีกจำนวนหนึ่ง มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท ซุกซ่อนไว้ใต้เตียงนอนภายในห้องพัก รวมทรัพย์สินยึดได้ครั้งนี้ ประมาณ 60 ล้านบาท ผู้ต้องหาไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงินจำนวนมากได้ จึงควบคุมตัวสอบขยายผล

+++ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ปป.5 และชุด ปส.9 กำลังสอบขยายผลถึงการเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดของนายไซซะนะหรือไม่ เชื่อว่าเป็นขบวนการใหญ่เครือข่ายกว้างขวางอีกเครือข่ายหนึ่ง เพราะมีขบวนการในต่างประเทศอยู่ด้วย รายงานระบุว่า นางบุหลัน มีสามีชื่อนายมามะ รุสลัน เคยถูกทางการมาเลเซียจับกุมที่เมืองโกตาบารู มาเลเซีย พร้อมของกลางยาบ้า 70,000 เม็ด เมื่อปี 2557 ส่วนนางบุหลัน เคยถูก ปปง.ยึดเงินประมาณ 5 ล้านบาท เมื่อปี 2557

+++ขยายผลต่อ หลังจากที่เมื่อคืนนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รองผบช.น. จับนายอานนท์ หรือต่อ ลาวเกษม อายุ 24 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 2,671,400 เม็ด ไอซ์ 7 กก. ยาเค 5 กก. และยาอี 34,000 เม็ด รถกระบะอีซูซุ ดีแม็ก ทะเบียน ผฉ 3922 อุดรธานี ฮอนด้าซิตี้ ทะเบียน 3 กช 8868 กรุงเทพมหานคร รถจยย.ฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีขาวไม่ติดแผนป้ายทะเบียน โดยจับกุมได้ภายในบ้านเลขที่ 61/579 หมู่บ้านฟลอร่าวิลล์ ซอยสุวินทวงศ์ 44 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก  จากการสอบสวนนายอานนท์ รับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากเพื่อนให้รู้จักกับชายคนหนึ่งใช้คำแทนตัวเองว่าเสี่ย ก่อนบอกให้ตัวเองไปหาบ้านเช่า พร้อมกับประสานงานกันผ่านทางโทรศัพท์ให้ขับกระบะไปรับยาแล้วนำมาพักไว้ที่บ้าน ก่อนส่งไปตามสถานที่ต่างๆ เมื่อส่งเสร็จก็ได้รับเงิน ล็อตแรก 7 แสนบาท จากนั้นเสี่ยได้โทรมาให้ไปรับยาล็อต 2 ที่อ.เสนานิคม จ.พระนครศรีอยุธยา จนมาถูกตำรวจจับ ผู้ต้องหา รับว่าได้เช่าบ้านหลังดังกล่าวมาแล้ว 2 เดือนและได้รับยามา 2 ล็อต ส่วนเงินค่าจ้างที่ได้มา 7 แสน ได้นำไปซื้อตู้คอนเทนเนอร์ เตรียมเปิดทำร้านอาหารที่ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เบื้องต้นส่งตัวผู้ต้องหาสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนยาเสพติดได้ส่งไปที่บช.ปส. ต่อไป

+++ติดตามนายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 50 ปี วิศวกรบริษัทเอกชนรับเหมาก่อสร้างที่ก่อเหตุยิงเด็กม. 4 จะเดินทางเข้าพบพ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม คาดว่าจะเป็นการปรึกษาคดีความที่เกิดขึ้น และอาจจะมีการหารือกรณีที่มีการถูกข่มขู่ ซึ่งต้องมีการพิจารณาว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลือหรือให้ความคุ้มครองได้อย่างไรบ้าง  

+++พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า ได้นำคลิปหลักฐานที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ไปตรวจสอบว่ามีการตัดต่อหรือไม่ เพื่อความชัดเจนถูกต้อง จากนี้ทางพนักงานสอบ สวนก็จะได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคล เขียนสำนวนส่งยังอัยการ และฟ้องศาลตามกระบวนการทางกฎหมาย ในส่วนของโซเชียลมีเดีย ไม่มีผลกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทุกอย่างต้องทำด้วยความรอบคอบ ยุติธรรม และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย      

แฟ้มภาพ