ตรวจการก่อสร้างพระเมรุมาศ /หวังICAOปลดธงแดงการบินไทย/เบสรินฯ ร้อง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน

09 กุมภาพันธ์ 2560, 08:19น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.



+++รองนายกรัฐมนตรี พลเอกธนศักดิ์ ปฎิมาประกร จะตรวจการก่อสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฎิสังขรณ์ ราชรถ และพระยานมาศ บริเวณท้องสนามหลวง



+++วันนี้ จะมีการประชุมนัดแรกคณะกรรมการอำนวยการเตรียมการปรองดอง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า จะมีการหารือกันถึงหัวข้อทั้ง 10 ประเด็น ที่ตั้งไว้ว่าจะมีอะไรบ้างที่จะต้องพิจารณาและรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกฝ่าย และจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น มา 4 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการรับฟังความเห็น ,คณะอนุกรรมการบูรณาการ, คณะอนุกรรมการข้อตกลงและคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้จะมีการกำหนดลงไปในระดับกองทัพภาคและทุกจังหวัด ที่จะต้องลงไปรับฟังความคิดเห็นในแต่ละพื้นที่ด้วย เพื่อให้เป็นคู่ขนานกัน



+++นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เลขานุการ ป.ย.ป. กล่าวถึงกรณีการตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป.ย.ป.ว่า ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ 30-40 คน โดยจะมาจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชนการศึกษา สังคม สิ่งแวดล้อม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารแผ่นดิน ขณะนี้ตอบรับแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างการทาบทามและรอการตอบรับหรือบางท่านยังติดต่อไม่ได้ อาทิ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา(ยูเอ็นซีทีเอดี) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (ดับเบิลทีโอ)พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการและบุคลากรของสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า  



+++ล่าสุด เลขานุการ ป.ย.ป.ได้นำรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิใน ป.ย.ป.ที่จะไปอยู่ในคณะกรรมการทั้ง 4 ชุด ส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว ประมาณ 40 คน อาทิ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)และพล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการและบุคลากรของสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้าเป็นต้น ขณะที่ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และนายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.)จะขอส่งตัวแทนเข้าร่วมแทน ไม่ขอเข้ามานั่งทำงาน ส่วนนายศุภชัย พานิชภักดิ์ และนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ซึ่งวางไว้เพื่อทาบทามมาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้



+++การแก้ปัญหาการบินพลเรือน พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 มิถุนายน 2560 จะมีการตรวจสอบ 10 สายการบิน ซึ่งจะพยายามยืนยันกับองค์การการบินระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ ให้เข้ามาตรวจให้ได้ภายในเดือนกันยายน 2560 และตั้งเป้าว่า น่าจะปลดธงแดงได้ในปีนี้ โดยมีกำหนดจะเข้ามาตรวจในเรื่องการรักษาความปลอดภัยในเดือนกรกฎาคม 2560 ทั้งหมด 8 ประเด็น เช่น เรื่องกฎหมายหลักมีการร่าง พ.ร.บ.การบินพลเรือนอยู่ระหว่างกระบวนการจัดทำกฎหมาย เรื่องแผนการรักษาความปลอดภัยในการบินระดับชาติ เรื่องหน่วยงานที่มีอำนาจในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีการจัดตั้งหน่วยงานดังกล่าวแล้ว เรื่องคุณสมบัติของบุคลากร เรื่องการจัดเตรียมเอกสารทางเทคนิค เรื่องการตรวจสอบความปลอดภัยสนามบิน



+++ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า  คณะกรรมการฯ มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี โดยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน และภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น โดยเป็นการฟื้นตัวจากการส่งออกสินค้าที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น และภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ขณะเดียวกัน การใช้จ่ายภาครัฐยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ ส่วนการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม เป็นเรื่องผลของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ปัญหาเสถียรภาพการเงินจีน และพัฒนาการทางการเมืองและปัญหาภาคการเงินในยุโรป คณะกรรมการฯ จึงเห็นว่านโยบายการเงินยังควรอยู่ในระดับผ่อนปรนต่อเนื่อง และพร้อมใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสม เพื่อให้ภาวะการเงินโดยรวมเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพการเงินของประเทศ



+++การขยายผลคดีเครือข่ายของนายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดชาวลาว พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าทางการมาเลเซียจับกุมตัวนายคามะลูดีน บิน อาหว่อง (Mr.Kamarudin Bin Awang) ชาวมาเลเซีย โดยจับกุมได้ที่รัฐกลันตัน เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลา 21.00 น. จากการตรวจสอบเชื่อว่านายคามะลูดีนเป็นเป้าหมายคนเดียวกับนายไซนุเด็ง มะ ลูกเขยนายมะรินิง จาโก หรือ "มะ สิบล้อ" หัวหน้าเครือข่ายรับยาเสพติดจากภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งตำรวจเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวมานานกว่า 5 ปี จากการจับกุมตรวจค้นพบว่ามีการซุกซ่อนเงินกว่า 30 ล้านบาท ไว้ภายในท่อ พีวีซี (ปี 2550 ตำรวจจับกุม นายมะยากี ยาโกะ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เจ้าของเงินจำนวน 30 ล้านบาท ที่ซุกไว้ในท่อพีวีซีที่ฝังไว้ภายในบ้านพัก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส)โดยนายคามะลูดีนมีพฤติกรรมรับยามาจากทางภาคเหนือส่งผ่านทางภาคใต้ไปยังประเทศมาเลเซีย เป็นคู่ค้าระดับเดียวกันกับนายไซซะนะ และเคยติดต่อค้ายาเสพติดกับนายอุสะมาน สะแลแมง ผู้ต้องหาที่ทางการไทยเคยออกหมายจับเมื่อปี 2555 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ทั้งนี้ ได้ประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียเพื่อสอบปากคำนายคามะลูดีนว่ามีความเชื่อมโยงกับนายไซซะนะในระดับไหน อย่างไร



+++รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสืบสวนพบว่านายคามะลูดีน บิน อาหว่อง มีบ้านพักใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นจุดพักยาเสพติดก่อนส่งไปยังมาเลเซีย เชื่อว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้



+++ พล.ต.ท.สมหมายกล่าวว่า เจ้าหน้าที่อายัดรถหรูต้องสงสัย 3 คัน มูลค่าคันละประมาณ 20 ล้านบาท ที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านประชาชื่น และที่ปริมณฑลอีก 2 แห่ง หลังทีมชุดคลี่คลายคดีสืบทราบเบาะแสว่ารถทั้ง 3 คัน น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเบนซ์ เรซซิ่ง และบอย นาคคำ จึงนำตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่ได้มาจากขบวนการยาเสพติดหรือไม่



+++ด้านนายณัฐวัฒน์ ห่วงมณี หรือเอก บูโน่ เข้าให้ปากคำ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง หลังการสอบปากคำ นายณัฐวัฒน์กล่าวสั้นๆ ว่ามาตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัว โดยสอบปากคำกรณีของรถเท่านั้น เตรียมเอกสารสำเนาทะเบียนรถมายืนยันว่ารถลัมโบร์กีนีได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมชื่อผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวเป็นชื่อของไฟแนนซ์ เมื่อถามว่า รู้จักเบนซ์ เรซซิ่ง และบอย นาคคำ หรือไม่ นายณัฐวัฒน์ไม่ตอบคำถามใดๆ ก่อนเดินกลับไปพล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าทางการลาวขอตัวนายไซซะนะ กลับประเทศนั้น น่าจะเป็นการปล่อยข่าว คงเป็นการประสานข้อมูลระหว่างทางการไทยและลาวมากกว่า เนื่องจากนายไซซะนะเป็นพลเมืองลาว เป็นปกติที่ทางการลาวต้องมาสอบถามเกี่ยวกับพลเมืองของตนเอง อยู่แล้ว



+++พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน เดินทางมาติดตามความคืบหน้าในคดีทุจริตสอบนายสิบตำรวจ และประชุมกำหนดแนวทางการสอบสวน เพื่อติดตามคดีในเรื่องของการพัฒนาแนวทางการสอบสวน ซึ่งยังคงมีผู้ต้องหาอีกหลายคน ก็ต้องมาดูว่าพยานหลักฐานเป็นอย่างไรบ้าง โดยก่อนหน้านี้ 2 กลุ่ม กลุ่มแรก 52 คนดำเนินการไปหมดแล้ว กลุ่มที่สอง 35 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลว่าพยานหลักฐานที่มีโยงไปถึงใครบ้าง ถ้าไปถึงใครก็จะออกหมายจับ ส่วนกลุ่มที่ 3 และน่าจะเป็นชุดสุดท้าย ในส่วนที่เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วในกลุ่มที่สอง จาก 35 คน เข้ามาแล้ว 25 ยังเหลืออีก 10 คน และได้ประสานพนักงานสอบสวนมาแล้วคาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกไม่กี่วัน น่าจะครบถ้วน โดย ในวันศุกร์ที่ 10 ก.พ. เวลา 10.00 น. ก็จะมีการเรียกประชุมคณะทำงานอีกครั้งเพื่อนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาวิเคราะห์ว่าจะต้องออกหมายจับใครเพิ่มเติมอย่างไร โดยจะให้ผกก.สอบสวน ที่ประจำอยู่ตาม บก.ต่างๆ มาช่วยในการทำงาน เนื่องจากสำนวน และพยาน หลักฐานต่างๆ เริ่มเยอะขึ้น คาดว่าไม่เกิน 2 เดือนก็น่าจะชัดเจนมากขึ้น



+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังมีแนวคิดออกบัตรให้ข้าราชการ นำไปรูดเพื่อชำระค่ารักษาพยาบาลข้าราชการและครอบครัว ประมาณ 5 ล้านราย เพื่อใช้ในการรูดเมื่อต้องการเข้ารับการรักษาพยาบาลยังโรงพยาบาลในสังกัด ซึ่งเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยป้องกันการรั่วไหล ของงบประมาณที่ใช้ในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลข้าราชการที่มีสูงได้เป็นอย่างดีหลักการเบื้องต้นของบัตรดังกล่าว คือ จะใช้ในการรูดจ่ายค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการและครอบครัว แต่หากกรณีลืมนำบัตรติดตัวไปด้วยเมื่อรับการรักษา ให้ข้าราชการสำรองจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลไปก่อน แล้วทำเรื่องเบิกเงินคืนภายหลัง โดยกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินคืนผ่านระบบพร้อมเพย์ แนวทางนี้จะช่วยลด การทุจริต ยักยอกเงินค่ารักษาพยาบาลของสถานพยาบาล ได้เป็นอย่างดี



+++นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การลดลงของเงินคงคลัง โดยในเดือนธันวาคม 2559 เหลือ 7.49 หมื่นล้านบาท มาจากรัฐบาลเร่งรัดให้มีการเบิกจ่าย เห็นได้จากการเบิกจ่ายในช่วงไตรมาสแรกปีงบ 2560 (ตุลาคม-ธันวาคม 2559) สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนถึง 78,183 ล้านบาท หรือสูงกว่า 8.8% และถ้าดูการกู้เงินพบว่า ในช่วงไตรมาสแรกปีงบ 2560 กู้เพียง 1.04 แสนล้านบาท ขณะที่ช่วงเดียวกันปีก่อนกู้ถึง 2.65 แสนล้านบาท ตรงนี้เป็นการบริหารจัดการเงินคงคลังของกระทรวงการคลังที่ไม่ต้องการมากู้กองไว้ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง



+++นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า หลังจาก ขสมก.ยกเลิกสัญญาจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 489 คันกับบริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้แล้ว ขสมก.จะรีบดำเนินการเปิดประมูลจัดหารถเมล์ใหม่ทันที โดยจะยังคงเป็นการจัดซื้อรถเมล์ เอ็นจีวี 489 คันตามเดิม เนื่องจากมีมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดิมรองรับอยู่แล้ว เพื่อให้สามารถนำรถใหม่มาให้บริการประชาชนโดยเร็ว ส่วนรถจำนวน 390 คันที่เบสท์รินนำส่งมอบให้ ขสมก.เพื่อติดจีพีเอสนั้น เบสท์รินจะต้องถอดจีพีเอสคืนแก่ ขสมก. และนำรถกลับคืนไปทั้งหมด โดยเฉพาะรถเมล์ที่เบสท์รินฝากจอดที่สำนักงานใหญ่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ถนนพระราม 9 ส่วนกรณีเบสท์รินจะฟ้องกลับ ขสมก.นั้น ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของ ขสมก.ได้เตรียมรับมือเรื่องนี้ไว้แล้ว



+++ นายคณิสสร์ ศรีวัชระประภา  ประธานบริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้ทำสัญญาซื้อขายและจ้างซ่อมแซมบำรุงรักษารถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คันกับ ขสมก. ซึ่งมีกำหนดส่งมอบรถยนต์ทั้งหมดภายในระยะเวลา 90 วันนับจากวันลงนามในสัญญา และบริษัทได้ส่งมอบรถยนต์ให้ ขสมก.แล้วจำนวน 274 คันคณะกรรมการตรวจรับรถมิได้ตรวจรับ และวันที่ 31 ม.ค.60 ยังสั่งให้ชะลอการตรวจรับรถยนต์ไว้ก่อนโดยไม่มีกำหนด ทำให้บริษัทเดือดร้อน ไม่ได้รับการชำระราคารถยนต์โดยสาร ที่ได้ส่งมอบไปเสร็จสิ้นตามสัญญาแล้ว จึงขอให้ผู้ตรวจฯ แจ้งไปยัง ขสมก. ให้สั่งการให้คณะกรรมการตรวจรับรถยนต์ที่ส่งมอบไปแล้ว  ส่วนอีก 99 คัน ได้ส่งหนังสือให้กรมศุลกากร เพื่อให้เอารถออกมาให้เราส่งมอบรถให้ได้ตามสัญญา แต่ยังไม่สามารถส่งมอบได้ ทางบริษัทเห็นว่าเป็นเหตุสุดวิสัย ที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้ จึงอยากร้องขอให้ ขสมก.ขยายสัญญาให้กับบริษัท และให้หน่วยงานกลางอย่างผู้ตรวจการแผ่นดินเข้ามาร่วมตรวจสอบว่าการจะบอกเลิกสัญญาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่



ส่วนกรณีที่กรมศุลกากรได้ระบุว่า มีภาพรถยนต์ที่นำมาจากจีนและลงเรือมาที่มาเลเซีย เป็นหลักฐานสำคัญนั้น เป็นเพียงพยานแวดล้อม ไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานเอาผิดกับเบสท์รินได้ และถือว่ายืนอยู่จุดเดียวแล้วมองบริษัทได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่ศุลกากรฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จำนวน 3 คน ซึ่งในวันศุกร์ที่ 10 ก.พ.นี้ ทางบริษัทเบสท์ริน กรุ๊ป จะแถลงข่าวเพื่อชี้แจงและเปิดโปงรายละเอียดทั้งหมด



+++วันนี้  นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานพิธีลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธา ทั้งในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมมีนบุรี และสัญญาจ้างติดตั้งระบบรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน ช่วงเตาปูน-บางซื่อ ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย



+++กลุ่มนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงชื่อคัดค้านยกเลิกการบังคับให้นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์แต่งกายถูกระเบียบ พร้อมแฮชแทค #chulassicpark เพื่อยื่นเรื่องต่อคณบดีในวันที่ 14 ก.พ.นี้ หลังมีข้อบังคับในการแต่งกายให้สุภาพทั้งในและนอกเวลาเรียน และถือเป็นการบังคับใช้กฎดังกล่าวเกินความเหมาะสมและขัดต่อสิทธิเสรีภาพของนิสิต อีกทั้งยังโดนหักคะแนนวินัย ตัดสิทธิ์ทุนการศึกษาและอาจหมดสิทธิ์ได้รับเกียรตินิยมขณะที่ นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักกิจกรรมการเมืองเยาวชนชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความให้กำลังใจกลุ่มนิสิตคณะวิศวะ จุฬาฯ ว่า “อย่ายอมทนก้มหน้าฝืน มหาวิทยาลัยไม่ใช่โรงเรียนอนุบาล”



+++จากเหตุการณ์ ที่รถตู้ของกลุ่มวัยรุ่นขับจอดขวางปิดหัวรถของ นายสุเทพ โภชน์สมบูรณ์ อายุ 50 ปี อาชีพวิศวกร และยังมีรถเก๋งของกลุ่มเดียวกันจอดปิดท้าย แล้วกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากทั้ง 2 คัน ต่างลงมาล้อมรถ มีท่าทีคล้ายกับต้องการทำร้ายคนในรถ ก่อนที่นายสุเทพจะใช้อาวุธปืนขนาด .380 มม.อยู่ในกระเป๋าสะพายในรถ ออกมายิงขู่ออกไป 1 นัด ทำให้กลุ่มวัยรุ่นพากันวิ่งหนี หนึ่งในนั้นคือ นายนวพล พึ่งผาย อายุ 17 ปีเสียชีวิต    เฟซบุ๊กเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.4 ได้เผยแพร่คลิปความยาว 3 นาที ซึ่งระบุว่าจากกล้องหน้ารถของลุงวิศวะหรือนายสุเทพ เมื่อคลิปดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกมา ก็มีชาวโซเชียลฯ จำนวนมากต่างแชร์ไปและวิพากษ์วิจารณ์ว่า น่าเห็นใจคุณลุงวิศวะอย่างมาก เหมือนแกโดนรุมทำร้าย   แม้ก่อนหน้านี้ หลายคนจะออกมากล่าวโทษลุงวิศวะว่าทำเกินกว่าเหตุ ไม่สมควรจะใช้วิธียิงปืนใส่ใคร ซึ่งยังไงก็ผิดกฎหมาย 

ข่าวทั้งหมด

X