+++การจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2560 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่11 กุมภาพันธ์ 2560 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา พิธีเดินเทียน และฟังพระธรรมเทศนา เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา พุทธศักราช 2560 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ซึ่งเป็นวัดหลวงสำคัญ และเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างไว้เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 แล้วยังเป็นวัดที่ยังรักษาประเพณีการเทศน์ยังรุ่ง ควบคู่กับการจุดเทียนพระราชทานยังรุ่ง หรือตลอดทั้งคืน อันเป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณกาล เพื่อให้บังเกิดเป็นผลานิสงส์แด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานเทียนยังรุ่งให้แก่วัด รวมทั้งเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนที่มีเวลาว่างไม่ตรงกันสามารถมาเดินเวียนเทียนรอบพระอุโบสถได้ตลอดเวลา เริ่มตั้งแต่เวลา 18.30 น.ของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ จนถึงเวลา 06.00 น.ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ โดยกระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการจัดงานจะอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย และจัดเทียนสำหรับเวียนเทียนไว้ให้พี่น้องประชาชนอย่างพอเพียง
+++คณะกรรมการจัดงานวันมาฆบูชา ยังได้เตรียมจัดสถานที่เพื่อรองรับคณะสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนที่ประสงค์จะมาแสดงมุทิตาจิต และถวายมุทิตาสักการะแด่สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 ที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธ เป็นสมเด็จพระสังฆราชด้วย รวมทั้งได้ประสานกรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกในการจอดรถ โดยสามารถนำรถยนต์ไปจอดได้ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ได้ทั้งในวันที่ 11 และ 12 ก.พ. ระหว่างเวลา 06.00 – 19.00 น.
+++ การสืบพยานของศาลจังหวัดนครพนม ในคดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครู ที่อ้างว่าตกเป็นแพะในคดีขับรถยนต์ชนคนตาย เมื่อ 11 มี.ค. 48 ในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม หลังติดคุก 1 ปี 6 เดือน จากคำพิพากษาตัดสินของศาลฎีกาให้จำคุก 3 ปี 2 เดือน เมื่อปี 56 แต่ได้รับการอภัยโทษออกมาเมื่อปี 2558 จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้น คือ ศาลจังหวัดนครพนม พิจารณารื้อคดี โดยมีกำหนดสืบพยานในระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ.นี้ โดยในวันนี้เป็นการสืบพยานฝ่ายผู้ร้อง คือครูจอมทรัพย์ และวันที่ 9-10 ก.พ. เป็นการสืบพยานฝ่ายผู้คัดค้านคือ อัยการ และตำรวจ
+++นายพงศา ราตรี ทนายความในฐานะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม ที่ดูแลคดี เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการสืบพยานฝ่ายผู้ร้อง คือครูจอมทรัพย์ มีการนำพยานปากสำคัญขึ้นสืบพยานในศาล จำนวน 9 ปาก มีพยานสำคัญคือ นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี และนางทองเรศ วงศ์ศรีชา อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญที่เห็นเหตุการณ์ว่า คนขับรถชนเป็นผู้ชาย ทั้งนี้ในการสืบพยานทั้งหมดของฝ่ายผู้ร้อง ประเด็นสาระสำคัญคือ การนำหลักฐานรถยนต์ โตโยต้า บค 56 สกลนคร ของครูจอมทรัพย์ มายืนยันให้ศาลเดินเผชิญสืบ นอกเหนือจากพยานบุคคล โดยมีเอกสารหลักฐาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ของ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ จำกัด นำผลการตรวจพิสูจน์ จากเทคโนโลยีต่างประเทศ ในการพิสูจน์ว่ารถยนต์คันดังกล่าวไม่มีมีการซ่อมทำสีมาใหม่ แต่มีรอยเฉี่ยวชนธรรมดาตามสภาพ ที่จะเป็นหลักฐานการยืนยันว่าไม่ใช่รถยนต์ที่ก่อเหตุ ซึ่งในการสืบพยานของฝ่ายผู้ร้อง สิ่งสำคัญคือการนำพิสูจน์ต่อศาลว่า รถยนต์ครูจอมทรัพย์ไม่ได้เป็นรถที่ก่อเหตุ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการยืนยันว่า ครูจอมทรัพย์ เป็นแพะ ในส่วนของนายสับ วาปี ที่ออกมายืนยันว่าเป็นคนขับ ไม่สำคัญเท่าการนำหลักฐานรถยนต์มาตรวจพิสูจน์ อยู่ที่ศาลพิจารณาว่ามีความจำเป็นที่จะต้องสืบเพิ่มหรือไม่ แต่ทั้งหมดเป็นกระบวนการยุติธรรม สุดท้ายต้องรอกระบวนการศาลตัดสินของศาลฎีกาเป็นที่สุด ต้องรอขั้นตอนการพิจารณา
+++การแก้ปัญหาการบินพลเรือน พล.ต.คงชีพ ตันตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 มิถุนายน 2560 จะมีการตรวจสอบ 10 สายการบิน ซึ่งจะพยายามยืนยันกับองค์การการบินระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ ให้เข้ามาตรวจให้ได้ภายในเดือนกันยายน 2560 และตั้งเป้าว่า น่าจะปลดธงแดงได้ในปีนี้ โดยมีกำหนดจะเข้ามาตรวจในเรื่องการรักษาความปลอดภัยในเดือนกรกฎาคม 2560 ทั้งหมด 8 ประเด็น เช่น เรื่องกฎหมายหลักมีการร่าง พ.ร.บ.การบินพลเรือนอยู่ระหว่างกระบวนการจัดทำกฎหมาย เรื่องแผนการรักษาความปลอดภัยในการบินระดับชาติ เรื่องหน่วยงานที่มีอำนาจในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีการจัดตั้งหน่วยงานดังกล่าวแล้ว เรื่องคุณสมบัติของบุคลากร เรื่องการจัดเตรียมเอกสารทางเทคนิค เรื่องการตรวจสอบความปลอดภัยสนามบิน
+++ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี โดยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้ในการประชุมครั้งก่อน และภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น โดยเป็นการฟื้นตัวจากการส่งออกสินค้าที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น และภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ขณะเดียวกัน การใช้จ่ายภาครัฐยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ ส่วนการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม เป็นเรื่องผลของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ปัญหาเสถียรภาพการเงินจีน และพัฒนาการทางการเมืองและปัญหาภาคการเงินในยุโรป คณะกรรมการฯ จึงเห็นว่านโยบายการเงินยังควรอยู่ในระดับผ่อนปรนต่อเนื่อง และพร้อมใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสม เพื่อให้ภาวะการเงินโดยรวมเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพการเงินของประเทศ
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บรรยากาศการลงทุนค่อนข้างคึกคักมาก โดยมีหุ้นสื่อสารนำตลาด และมติกนง. และมองเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวทั้งภาคการส่งออก การลงทุน ปิดตลาดที่ 1,589.29 จุด เพิ่มขึ้น 6.77 จุด มูลค่าซื้อขาย 59,061.98 ล้านบาท
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากแรงซื้อหุ้นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีนที่รายงานผลประกอบการแข็งแกร่ง ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 153.56 จุด ปิดนี้ที่ 23,485.13 จุด
+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 96.82 จุด ปิดที่ 19,007.60 จุด
+++ปัญหาอัตราการเกิดต่ำในประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุขส่งเสริมนโยบายสาวไทยแก้มแดง มีลูกเพื่อชาติ ด้วยวิตามินแสนวิเศษ โดยให้หญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 20-34 ปีทุกคน ที่พร้อม /ตั้งใจ และวางแผนจะมีลูกรับวิตามินแสนวิเศษเสริมธาตุเหล็กและโฟลิก นำไปสู่การคลอดที่ปลอดภัย ลูกแข็งแรงอย่างมีคุณภาพ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติฉบับที่ 2 (พ.ศ.2560-2569) ว่าด้วยการส่งเสริมการเกิดและการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ และผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเน้น 3 เรื่อง คือ เพิ่มจำนวนการเกิด เพื่อทดแทนจำนวนประชากร โดยส่งเสริมการเกิดในหญิงอายุ 20-34 ปีที่มีความพร้อม และตั้งใจมีครรภ์ โดยการเกิดทุกรายมีความพร้อม มีการวางแผน มีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ และได้รับความช่วยเหลือในการมีบุตร และทารกแรกเกิดแข็งแรง พร้อมเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยส่งเสริมให้ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย ได้รับการดูแลหลังคลอดที่ดี เด็กได้รับการเลี้ยงดูในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการสมวัย พร้อมที่จะเรียนรู้ในช่วงวัยต่อไปอย่างมั่นคง
+++นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันวิถีชีวิตคนไทยเปลี่ยนไป ผู้หญิงไทยมีการศึกษาสูงขึ้น คนรุ่นใหม่มีค่านิยมที่จะอยู่เป็นโสดมากขึ้น แต่งงานน้อยลง/ช้าลง ทำให้การเพิ่มประชากรลดลง จากร้อยละ 2.7 ในพ.ศ. 2513 เหลือร้อยละ 0.4 ในพ.ศ. 2558 ส่งผลให้อัตราเจริญพันธุ์รวมของประเทศไทยลดลง นอกจากนี้ ในปี 2558 พบอัตราการตายมารดาอยู่ที่ 20 ต่อการเกิดมีชีพแสนคน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการตกเลือดหลังคลอด หญิงตั้งครรภ์มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กร้อยละ 39 ทารกคลอดก่อนกำหนดร้อยละ 10.4 ทารกเสียชีวิตจากภาวะความพิการแต่กำเนิดร้อยละ 7
+++นอกจากนี้ยังพบอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนมีเพียงร้อยละ 23.9 เด็กปฐมวัยขาดสารอาหารร้อยละ 16.8 มีพัฒนาการไม่สมวัยร้อยละ 27.3 และพบหญิงวัยเจริญพันธุ์อายุ 15 ปีขึ้นไปมีภาวะโลหิตจางร้อยละ 29.8 ทำให้ประเทศไทยเผชิญกับปัญหา เด็กเกิดน้อย ด้อยคุณภาพเพื่อลดปัญหาดังกล่าวและเป็นไปตามมติสมัชชาอนามัยโลกปี 2012 ที่ได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกลดภาวะโลหิตจางในหญิงวัยเจริญพันธุ์ร้อยละ 50 ภายในปี ค.ศ. 2025 กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดกิจกรรมเสริมธาตุเหล็กและโฟลิกหรือวิตามินแสนวิเศษ ให้หญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 20-34 ปีทุกคน ที่พร้อม/ตั้งใจ และวางแผนจะมีลูก กินสัปดาห์ละ 1 ครั้ง อย่างน้อย 12 สัปดาห์ก่อนการตั้งครรภ์ พร้อมให้คำแนะนำการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ โดยในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 จะมีการแจกกล่องวิตามินแสนวิเศษ สาวไทยแก้มแดงพัฒนาสมองและการเรียนรู้ด้วยเหล็กและโฟลิก พร้อมแผ่นพับความรู้ ให้กับคู่สมรสที่มาจดทะเบียนพร้อมกันทั่วประเทศ
+++บีบีซี รายงานอ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติออสเตรเลียว่า สามีภริยาวัยรุ่นชาวออสเตรเลียคู่หนึ่งคือนายซาเมห์ เบย์ดา และนางอาโล-บริดเกต นาเมา อายุ 19 ปีเท่ากัน ถูกกล่าวหาว่าวางแผนก่อการร้ายในเมืองซิดนีย์ รวมถึงข้อหาสมคบกันเพื่อก่อเหตุ ตระเตรียมหรือวางแผนก่อการร้าย คดีนี้มีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต ก่อนหน้านั้น ทั้งสองคนถูกขังอยู่ในเรือนจำอยู่ก่อนแล้ว หลังถูกจับกุมเมื่อต้นปีที่แล้ว นายเบย์ดา รวบรวมข้อแนะนำเรื่องวิธีการผลิตระเบิดแสวงเครื่องและการแทงด้วยอาวุธมีด ส่วนนางนาเมา ถูกกล่าวหาว่าครอบครองอาวุธมีดและเอกสารแนะนำเกี่ยวกับการผลิตระเบิดทำเอง ต่อมาอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลโดยแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเรื่องการก่อการร้าย หลังการสอบสวนเพิ่มของตำรวจ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยศาลในเมืองซิดนีย์นัดไต่สวนนัดแรกในวันนี้ ต่อมาศาลได้เลื่อนนัดไต่สวนไปครั้งหน้าคือวันที่ 15 มีนาคมนี้ เนื่องจากต้องการรับฟังพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากฝ่ายอัยการโจทก์ ก่อนตัดสินว่าคดีมีมูลหรือไม่
แฟ้มภาพ sanook