หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานทางการมาเลเซียให้จับกุมผู้ค้ายาเสพติดที่อยู่ในเครือข่ายของนายไซซะนะ แก้วพิมพา พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ พลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(ผบช.ปส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จับกุมตัว นายไซนุเด็ง ที่นำยาเสพติดจากทางภาคเหนือ ลำเลียงไปประเทศที่ 3 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายไซนุเด็งมีความเคลื่อนไหวมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี มีทรัพย์สินในประเทศไทยมากกว่า 30 ล้านบาท อีกทั้งยังเป็นคนที่เคยติดต่อค้ายาเสพติดกับนายอุสะมาน สะแลแมง ผู้ต้องหาที่ทางการไทยเคยออกหมายจับเมื่อปี 2555 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการหลบหนีอยู่ หลังจากนี้ทางการไทยลงไปร่วมสอบสวนนายไซนุเด็งด้วย และจะขยายผลหาตัวการที่ใหญ่กว่าไซซะนะต่อไป
สำหรับขบวนการค้ายาเสพติดนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ คิดว่ามีความเกี่ยวข้องกัน เพราะจากการจับกุมตัวผู้ค้ายาเสพติด ส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงกับพื้นที่ภาคใต้ แต่เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง
ส่วนกรณีการตรวจอายัดรถหรูของเครือข่ายนายไซซะนะอีกกว่า 20 คัน ที่เจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยา เสพติด(ปส.) ประสานข้อมูลกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)ไปก่อนหน้านี้ พลตำรวจโทสมหมายเชื่อว่า เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเครือข่าย เป็นไปได้ว่าอาจมีมากกว่านี้ ทั้งนี้แม้ว่ารถหรูที่จะมีการครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่หากเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดก็จะต้องถูกอายัดและตรวจสอบ รวมถึงผู้ครอบครองด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการเรียกตัวพยานเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถลัมโบกินีในวันนี้ ได้ประสานเจ้าของเต็นท์รถเอก บรูโน่ ออโต้ คลินิก ย่านพระราม 3 เข้าให้ปากคำแล้ว ซึ่งจะสอบถามข้อมูลถึงที่มา รถลัมโบกินีของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง คาดว่าจะเดินทางมาภายในวันนี้