รองปลัดยธ.ตัดสับวารีออกจากคดีครูจอมทรัพย์ /ปปง.โต้สังศิต ได้ข้อมูลไม่ถูกต้องคดีโรลส์รอยส์/เมลานี ทรัมป์ ฟ้องสื่อเดลิเมล์ กล่าวหาเป็นหญิงขายบริการ

08 กุมภาพันธ์ 2560, 12:13น.


ข่าวเที่ยงครึ่ง



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) โดยกล่าวในที่ประชุมว่า ขอบคุณและชื่นชมคณะทำงานที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบ สะท้อนการทำงานเชิงรุกหลายอย่าง แต่ก็พบว่ายังมีคนไม่ดีที่พยายามที่จะวิพากษ์วิจารณ์ และเปิดหน้าออกมาเรื่อยๆ บางเรื่องเราทำดีแต่เขากล่าวหาว่าไม่ดี ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคน โดยเฉพาะคณะทำงานและส่วนราชการ ต้องรู้จักทำความเข้าใจ โดยเฉพาะการขยายความเข้าใจไปสู่วงกว้าง แบบปากต่อปาก และเผยแพร่ผ่านโซเชี่ยลมีเดีย หลังพบประเด็นที่เกี่ยวโยงกับหน่วยงานของตนเอง อย่าปล่อยทิ้งไว้ โดยคิดว่าไม่สำคัญเพราะสามารถสร้างกระแสตอบรับ ได้มากกว่าพูด เพราะคนพูดไม่ต้องรับผิดชอบ แต่รัฐบาลในฐานะผู้ปฏิบัติต้องรับผิดชอบทุกเรื่อง



+++การปฏิรูปองค์กรตำรวจ พล.ต.อ. รุ่งโรจน์ แสงคล้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แบ่งการปฏิรูปองค์กรตำรวจเป็น 2 รูปแบบ คือการปฏิรูปในภาพรวม แผนระยะยาว 3-5 ปี และการปฏิรูปเฉพาะหน้า ซึ่งก็คือการยกระดับสถานีตำรวจ ให้สามารถบริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดจะมีการพิจารณาแนวทางเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาแนวทางการปฏิรูปในระดับสถานีตำรวจ ขณะนี้เป็นการปฏิรูปในช่วงที่ 2 ยกระดับการบริการของตำรวจทั้งในสถานีตำรวจและนอกสถานีตำรวจ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำให้ตำรวจมีความสุภาพ และเต็มใจให้บริการประชาชนอย่างเต็มความสามารถ คาดในระยะยาว องค์กรตำรวจจะมีการพัฒนา เพื่อปกป้องดูแลและให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มรูปแบบตามแนวทางของรัฐบาล



+++พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ตอบโต้กรณีนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการฟอกเงิน ออกมาระบุถึงคดีสินบนโรลส์รอยซ์กับการดำเนินงานของปปง.ว่า อาจส่งผลกระทบต่อการประเมินของแฟทเอฟ( FATF )ในเดือนพ.ค.นี้. และอาจส่งผลกระทบเป็นสึนามิทางเศรษฐกิจนั้น ว่า ข้อเท็จจริงของนายสังศิตมีความคลาดเคลื่อนและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อองค์กรปปง. โดยเฉพาะประเด็นสถิติการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 1,200 ราย ซึ่งนายสังศิตระบุว่าศาลสั่งให้เป็นไปตามคำขอแค่ 12 ราย ซึ่งไม่เป็นความจริง โดยปปง.ได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 1,225 คดี และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินจำนวน 1,128 คดี หรือคิดเป็นร้อยละ 92.08 ของคดีทั้งหมด ในจำนวนดังกล่าวมีการนำเรื่องขึ้นสู่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจำนวน 21 คดี ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามคำร้องของปปง.จำนวน 18 คดี ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูลของนายสังศิตแต่อย่างใด



+++ส่วนกรณีที่นายสังศิตได้ระบุถึงอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินนั้น พล.ต.อ.ชัยยะ กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ไม่มีการลงนามในอนุสัญญาดังกล่าวแต่อย่างใด คาดว่านายสังศิตน่าจะกล่าวโดยรวมถึงอนุสัญญา3ฉบับคือ อนุสัญญาสหประชาชาติที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ และอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตซึ่งอนุสัญญาทั้ง3ฉบับได้กำหนดให้นำมาตรการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมาใช้เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในกรณีสินบนโรส์-ลอยด์ เป็นประเด็นเกี่ยวข้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกใช้มาตรการในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อยับยั้งและป้องกันการทุจริตรวมถึงการยึดอายัดและริบทรัพย์สินที่ได้จากการทุจริตซึ่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เป็นหน่วยงานหลัก โดยปปง.ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้วทั้งนี้ขอยืนยันว่า ได้ดำเนินการและประสานงานกับทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องกับคดีต่างๆ อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด แต่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อรูปคดี



+++วันนี้เป็นวันแรกของการสืบพยานรื้อคดีครูจอมทรัพย์ ขับรถชนคนเสียชีวิต โดยศาลจังหวัดนครพนมนัดสืบพยานฝ่ายผู้ร้อง  พันตำรวจเอกดุษฏี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้ รับความเป็นธรรม (ศนธ.ยธ.) กล่าวถึงการขึ้นเบิกความในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ในคดี นางจอมทรัพย์  ว่า จนถึงขณะนี้ยังคงมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี โดยมีจะพยานขึ้นเบิกความรวมทั้งสิ้น 10 ปาก แต่จะไม่มี นายสับ วาปี ผู้ที่ออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่าเป็นผู้ขับรถชน เนื่องจาก มั่นใจ และมุ่งเน้นไปยังพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ว่ารถของครูจอมทรัพย์ไม่เคยผ่านการชนมาก่อน แม้จะขายใครต่อไปก็ยังสามารถยืนยันได้ว่าไม่เคยมีการชน รวมทั้งป้ายทะเบียน ความสูงขอบบนขอบล่าง ไม่สัมพันธ์กับรถจักรยานที่เกิดเหต สำหรับประเด็นนี้ไม่มีประจักษ์พยานเห็นว่าครูจอมทรัพย์เป็นคนขับรถ คือถ้าพิสูจน์ได้ว่า รถครูจอมทรัพย์ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ ก็ค่อนข้างเชื่อได้ว่าน่าจะมีน้ำหนักทำให้ครูจอมทรัพย์หลุดพ้นจากมลทินได้ สำหรับ กรณีของนายสับ  จากที่ทีมงานของยธ. ไปตรวจสอบการทำคดีนี้  พบว่า  การทำคดีได้ข้ามไป 2 ขั้นตอนสำคัญ คือ 1.ไม่ได้การนำนายสับเข้าเครื่องจับเท็จ และ 2.ให้ผู้เสียหายคือญาติผู้เสียชีวิต ฟ้องร้องคดีอาญากับนายสับ ในกรณีเฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตายและหลบหนี   ซึ่งตามขั้นตอนที่ถูกต้องจะต้องรอให้ศาลตัดสินให้เสร็จสิ้นก่อนว่านายสับเป็นผู้กระทำผิด จึงจะมีการยื่นรื้อฟื้นคดี  ดังนั้นมองเห็นแล้วว่าถ้าในอนาคตมีกรณีที่เหมือนกับนายสับทุกอย่าง และมารับสารภาพรับผิดภายหลัง มีการเจรจาจ่ายค่าเสียหายแก่ญาติผู้ตาย จะทำให้กระบวนการยุติธรรมสับสนและไขว้เขว้ได้ โดยการรื้อฟื้นคดีครั้งนี้ น่าจะเป็นมาตรฐานในการรื้อฟื้นคดีต่อไปในอนาคตได้



++++ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีความผิดทางเพศ หมายเลขดำ อ.4407/52 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง นายสุรชัย หรือ คณิศร วิวัฒนชาติ หรือ เอ็ม พญาไท อายุ 41 ปี และนางธนวรรณ หรือ เดือน อุดมมีชัย หรือ คล้ายแพร อายุ 50 ปี สองสามีภรรยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา ข่มขืนใจผู้อื่นฯ หน่วงเหนี่ยวกักขัง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ กรณีจำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนบังคับข่มขู่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นพนักงาน หจก.อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเทคทีฟ ของจำเลยทั้งสอง แล้วจำเลยที่ 1 ได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหลายครั้งหลายหน และข่มขู่จะนำรูปภาพและวีดิโอที่จำเลยที่ 1 แอบถ่ายขณะมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายไปเผยแพร่ โดยมีจำเลยที่ 2 พูดจาขู่เข็ญ ข่มขืนใจผู้เสียหาย หมิ่นประมาท เหตุเกิดแขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ  คดีนี้ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุกนายสุรชัย จำเลยที่ 1 รวมโทษทุกข้อหา ทุกกระทงไว้ 50 ปี ปรับ 1,050 บาท ส่วนนางธนวรรณ จำเลยที่ 2 จำคุก 10 ปี ฐานเป็นผู้สนับสนุนในการข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยมีและใช้อาวุธปืน ทั้งนี้จำเลยที่ 2 ได้หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ ศาลจึงออกหมายจับปรับนายประกันจำนวน 1 ล้านบาท และอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ลับหลังจำเลยที่ 2 ไปเมื่อวันที่ 30 พ.ย.57 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาศาลได้แจ้งว่า เนื่องจากเจ้าหน้าส่งหมายนัดให้จำเลยที่ 2 แล้ว แต่ไม่มีผู้รับหมาย ศาลจึงมีคำสั่งให้เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีนี้เป็นวันที่ 15 มี.ค.นี้ เวลา 09.30 น. วันนี้ศาลได้ออกหมายเบิกตัวนายสุรชัย จากเรือนจำ ฯ ซึ่งอยู่ในชุดต้องโทษ สีน้ำตาล มีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่รูปร่างซูบผอมลง ขณะที่นางธนวรรณ ภรรยาอยู่ระหว่างการหลบหนี..



+++เมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งสหรัฐได้ยื่นฟ้องหนังสือพิมพ์เดลิเมล์ของอังกฤษเป็นมูลค่าถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทำให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจที่จะได้รับ เพราะเดลิเมล์ได้ลงข่าวกล่าวหาว่าเธอเคยทำงานเป็นหญิงขายบริการ ทั้งนี้เดลิเมล์ได้เคยรายงานข่าวว่าเธอเคยทำงานเป็นหญิงบริการก่อนที่จะปรับแก้ข้อมูลในเวลาต่อมา เมลาเนียก็ได้ยื่นฟ้องหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ในรัฐแมรีแลนด์แต่ผู้พิพากษาปฏิเสธที่จะรับฟ้อง ทำให้ทนายความของเธอเดินหน้ายื่นฟ้องอีกครั้งในนครนิวยอร์กซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานบริษัทเมล์มีเดียที่เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์เดลิเมล์ ซึ่งยังไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับการยื่นฟ้องครั้งล่าสุดนี้ แต่ก่อนหน้านี้เคยให้เหตุผลหลังการถอดรายงานข่าวเมื่อวันที่ 20 สิงหาคมว่า หนังสือพิมพ์ไม่ได้ตั้งใจที่จะระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นความจริง และไม่ตั้งใจที่จะบอกว่าเมลาเนียเคยทำงานเป็นหญิงขายบริการหรือทำงานในธุรกิจขายบริการตามที่มีการกล่าวหาจริง



 



 



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X