นักวิเคราะห์ระบุกลุ่มไอเอสอาจจะ มองหาโอกาสที่จะฟื้นตัวอีกครั้งหลังทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ

รอยเตอร์รายงานอ้างนายโมคห์ตาร์ อาวัด นักวิจัยในโครงการศึกษาเกี่ยวกับกลุ่มหัวรุนแรง มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตันของสหรัฐฯว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศจะปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)อย่างต่อเนื่อง แม้ว่ากลุ่มไอเอสจะยู่ในตกต่ำที่สุดอยู่ก่อนแล้วในช่วงนี้ แต่กลุ่มไอเอสและนักวิเคราะห์บางคนเตือนว่า การกระทำของนายทรัมป์อาจจะยิ่งสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มหัวรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการรับสมัครนักรบรายใหม่และอาจจะสร้างแรงบันดาลให้มีการก่อเหตุโจมตีในสหรัฐฯ

ที่ผ่านมากลุ่มไอเอสเริ่มอ่อนแออย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา สูญเสียดินแดนในอิรัก ซีเรียและลิเบีย และลดลงทั้งในด้านการเงินและขนาดกำลังรบ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลางและกลุ่มผู้สนับสนุนกลุ่มไอเอสระบุว่าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายทรัมป์อาจจะช่วยให้กลุ่มไอเอสฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง พวกเขาเชื่อว่าการที่นายทรัมป์มีคำสั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วห้ามรับผู้อพยพและห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐฯอาจจะมีผลให้กระแสสนับสนุนของกลุ่มไอเอสฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง คำสั่งฝ่ายบริหารของนายทรัมป์ซึ่งที่ผ่านกลุ่มไอเอสยังไม่แสดงท่าทีเรื่องนี้เริ่มสั่นคลอนหลังผู้พิพากษาคนหนึ่งมีคำสั่งระงับการบังคับใช้นั้นชั่วคราว แต่ไม่ว่าจะมีการใช้บังคับคำสั่งของนายทรัมป์อีกครั้งหรือไม่ ชัดเจนว่าเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวมุสลิมทั่วโลกและมองว่านายทรัมป์และรัฐบาลของเขามีแนวคิดต่อต้านอิสลาม

ก่อนหน้านี้นายฌอง สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวระบุว่าเป้าหมายสูงสุดของนายทรัมป์คือความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ไม่ใช่ปัญหาเรื่องศาสนา ด้านองค์การความร่วมมืออิสลาม(โอไอซี)ซึ่งประกอบด้วยรัฐสมาชิก 57 ประเทศระบุว่าการแบ่งแยกและกีดกั้นมุสลิมเช่นนี้อาจจะยิ่งทำให้กระแสการรวมกลุ่มของกลุ่มหัวรุนแรงมากยิ่งขึ้น ด้านเว็บไซต์อัลมินบาร์ของกลุ่มไอเอสยังคงชื่นชมกับชัยชนะของนายทรัมป์ ระบุว่าทัศนะของนายทรัมป์แสดงให้เห็นหน้าตาที่แท้จริงของสหรัฐฯและนโยบายของเขาจะสร้างความแตกแยกขึ้นในสังคม หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของกลุ่มไอเอส/19.30 น.