มีชาวโรมาเนียเข้าร่วมการชุมนุมในกรุงบูคาเรสต์ และเมืองใหญ่อีกหลายแห่งต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยสำนักข่าวต่างประเทศบางแห่งระบุว่า มีจำนวนมากกว่า 5 แสนคนแล้ว และนับเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบสามทศวรรษเพื่อคัดค้านกฎหมายลดโทษนักการเมืองที่กระทำความผิดฐานทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งต่อมารัฐบาลประกาศให้ถอนกฎหมายฉบับนี้ และจะนำเสนอกฎหมายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นฉบับใหม่ แต่ประชาชนก็ยังไม่ไว้วางใจ และเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่รักษาสัญญาและมีพฤติกรรมช่วยเหลือพวกพ้อง โดยพวกเขาจะกลับมาร่วมชุมนุมทุกคืนจนกว่ารัฐบาลจะลาออก
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีโซริน กรินดานู ของโรมาเนีย กล่าวว่า พรรคโซเชียลเดโมแครตหรือพีเอสดีของเขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งใหญ่เมื่อเดือนธันวาคมดังนั้นพรรคจึงมีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบต่อผู้ที่ออกเสียงสนับสนุนพรรค โดยในปัจจุบันนายลิวิยู ดรักเนีย แกนนำพรรคพีเอสดีกำลังถูกพิจารณาคดีในความผิดฐานทุจริตคอรัปชั่น และโกงการเลือกตั้งซึ่งเขายืนกรานว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง และผู้ชุมนุมเหล่านี้ หลงเชื่อตามคำโฆษณาชวนเชื่อ
สำหรับกฎหมายที่รัฐบาลกำหนดให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ ระบุให้เป็นการกระทำความผิดทางอาญา หากเป็นการรับเงินที่มากกว่า 2 แสนเลอู หรือประมาณ 47,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนอกจากนี้รัฐบาลยังพยายามผลักดันให้มีการอภัยโทษนักโทษ 2,500 คนที่เหลือเวลาในการจำคุกไม่ถึง 5 ปีเพื่อลดความแออัดในเรือนจำ
...