ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน มีมติปรับราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เดือนกุมภาพันธ์ 2560 ขึ้นอีก 67 สตางค์ต่อกิโลกรัม (กก.) จากเดิม 20.29 บาทต่อกิโลกรัมกลายเป็น 20.96 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 1 ปี ส่งผลให้ราคาก๊าซหุงต้มแบบถังขนาด 15 กิโลกรัมปรับขึ้น 10 บาทต่อถัง มีผลตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบให้กรมการค้าภายในเร่งศึกษาต้นทุนราคาสินค้าจากนั้นจึงจะพิจารณาแนวทางการดูแลราคาสินค้า เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม การที่มีราคาเพิ่มขึ้นไปอีก 10 บาทนั้นจะทำให้ราคาอาหารจานด่วนเพิ่มขึ้นเพียงจานละ 10 สตางค์เท่านั้น เพราะก๊าซ 1 ถัง ทำอาหารได้ 200-300 จาน จึงไม่มีเหตุผลที่ผู้ประกอบการร้านค้าจะฉวยโอกาสขึ้นราคาขายปลีก นอกจากนี้ในช่วงที่ราคาก๊าซแอลพีจีอยู่ที่ถังละ 390 บาท ราคาอาหารจานด่วนขยับขึ้นตาม แต่เมื่อราคาก๊าซปรับลดลงมาเฉลี่ยถังละ 340-345 บาท ราคาอาหารจานด่วนก็ไม่ได้ปรับลงตาม
ด้าน นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1-2 จากปีที่แล้ว ที่มีการใช้อยู่ที่ 5,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่วนการจัดหาก๊าซประมาณร้อยละ 75 จะมาจากอ่าวไทย และอีกร้อยละ 17 เป็นการนำเข้าจากเมียนมา ขณะที่เหลืออีกร้อยละ 8 เป็นการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) คาดว่าปีนี้จะนำเข้าแอลเอ็นจีมากกว่า 5 ล้านตัน
ข่าวอาชญากรรม การปราบปรามเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด นายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาวลาว ซึ่งผู้ต้องสงสัยมีการซัดทอดไปถึง นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง ว่าเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของเครือข่าย โดยนายอัครกิตติ์ ยังเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ซึ่งสวมทะเบียนมาจากรถคันอื่น โดยเมื่อวานนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. เดินทางเข้าร่วมประชุมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งมีการออกหมายจับที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด จำนวน 9 ราย ติดตามจับกุมได้แล้ว 3 ราย ส่วนอีก 6 ราย ที่ยังคงหลบหนีเป็นเครือข่ายของ เอ๋ เจ็ดเสมียน พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พื้นที่ รับผิดชอบของ บก.ภ.7 โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมตัวอยู่
ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ตรวจสอบกรณีที่มีนายตำรวจร่วมถ่ายภาพกับนายไซซะนะ ที่ปรากฏทางสื่อสังคม และพบว่า เป็นข้าราชการตำรวจในพื้นที่อีสาน เหนือและส่วนกลางจริง จำนวน 3 นาย ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ต้นสังกัดตรวจสอบความเชื่อมโยงว่ามีความสัมพันธ์ในลักษณะใด หรือเป็นเพียงการร่วมถ่ายภาพตามปกติ
เมื่อวานนี้ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวน คดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะผู้กำกับดูแลศูนย์ปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมพิเศษ พร้อม พ.อ.ประสาน แสงศิริลักษณ์ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.อุทัยธานี นายศรัทธา คชพลายุกต์ ปลัดจังหวัดอุทัยธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เจ้าหน้าที่ทหาร กรมทหารราบที่ 4 รวมกว่า 50 นาย บุกเข้าตรวจค้นบ้านและพื้นที่ เป้าหมายใน จ.อุทัยธานี รวม 10 จุด ประกอบด้วย บ้านเลขที่ 89 บ้านเลขที่ 92 บ้านเลขที่ 94 บ้านเลขที่ 94/1 บ้านเลขที่ 94/2 บ้านเลขที่ 94/3 บ้านเลขที่ 94/4 บ้านเลขที่ 94/5 บ้านเลขที่ 94/6 และ บ้านเลขที่ 789 ต.ท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นบ้านของเครือข่าย นายวิชัย ปั้นงาม หัวหน้ากลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ ซึ่งยังเป็นผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับและยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ
โดยได้อายัดเครื่องคอมพิวเตอร์และเอกสารอื่นๆ ไปตรวจสอบ กับติดป้ายประกาศอายัดบ้านและที่ดินที่รั้วบ้านและพื้นที่เป้าหมายทุกหลัง
ส่วนการประชุมคณะกรรมการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบอร์ด สปสช. โดยมี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน มีการายงานว่า ผู้ใช้สิทธิบัตรทองในปีงบประมาณ 2561 จำนวนมากกว่า 48 ล้านคนจึงเสนอของบประมาณเหมาจ่ายรายหัวรวมมากกว่า 1 แสน 4 หมื่นล้านบาท โดยไม่รวมเงินเดือนของบุคลากร แต่สำนักงบประมาณได้เสนอรายงานไปยัง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ระบุงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวอยู่ที่ 1 แสน 2 หมื่นล้านบาท โดยจะชี้แจงต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ร.อ.ณรงค์ เกี่ยวกับสิทธิรักษาพยาบาลของผู้ถือสิทธิบัตรทอง ซึ่งในปัจจุบันมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น
กรณีมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม จนทางโรงเรียนต้องประกาศปิดสถานศึกษา เมื่อวานและในวันนี้ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ถือเป็นกรณีตัวอย่างของการดำเนินการมาตรการป้องกันและควบคุมโรค ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โดยเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ลงพื้นที่ร่วมกับสำนักอนามัย กทม. สอบสวนและควบคุมโรคในโรงเรียน พร้อมให้คำแนะนำมาตรการป้องกันโรค โดยสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ 1-31 มกราคม 2560 มีผู้ป่วย 4,875 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต พบผู้ป่วยมากในกลุ่มเด็กอายุแรกเกิดถึง 14 ปี โดยคาดว่าในปี 2560 จะมีผู้ป่วยมากกว่า 300,000 ราย เฉพาะเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม คาดว่าจะมีผู้ป่วยประมาณเดือนละ 13,000 ราย สำหรับใน กทม. สัปดาห์ที่ผ่านมามีการระบาดในสถานศึกษาหลายแห่ง โดยเฉพาะระดับประถมศึกษา
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับสถานศึกษา มีข้อแนะนำในการป้องกันควบคุมโรค 5 ข้อ คือมีระบบคัดกรองเด็กทุกเช้าก่อนเข้าเรียน พิจารณาปิดสถานศึกษา เพื่อชะลอการระบาด สถานศึกษาทำความเข้าใจกับผู้ปกครองถึงความจำเป็นที่จะให้ผู้ป่วยหยุดเรียน จัดให้มีจุดล้างมือ และ ให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับโรคแก่นักเรียนและผู้ปกครอง รวมถึงส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
...