ประชุมครม./รัฐยืนยันสถานะการคลังไม่มีปัญหา/ตั้งคกก.ป.ย.ป.4ชุด

ในวันนี้ มีการประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ก่อนที่การประชุมจะเริ่มขึ้น นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมนำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ประจำปี 2560

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจัดแสดงผลงานของนักเรียน นักศึกษาที่มีความเป็นเลิศ

ในช่วงบ่าย นายหนิง ฟู่ขุย  เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี

ส่วนกรณีสถานะการเงินการคลังของประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอให้ฟังคำชี้แจงจากกระทรวงการคลัง

ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าเป็นแผนบริหารจัดการของกระทรวงการคลัง เพราะรัฐบาลต้องการเร่งรัดเบิกจ่ายเงินออกสู่ระบบโดยเร็ว และกล่าวด้วยว่า บางปีเงินคงคลังเหลือ 15,000-20,000 ล้านบาท ยังไม่มีปัญหาสามารถบริหารจัดการได้ และแนวโน้มเงินภาษีหลายด้านยังเริ่มไหลเข้าคลังเพิ่ม จึงไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด และเห็นว่าที่ทำให้เกิดความกังวลกันก็เพราะเป็นประเด็นทางการเมือง

ขณะที่นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าเงินคงคลังยังอยู่ในสถานะที่ดีอยู่ ณ เดือนธันวาคม 2559 มีตัวเลขที่หักลบรายได้และรายจ่ายแล้วคงเหลือทั้งสิ้น 74,907 ล้านบาท ส่วนการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินภายในประเทศนั้น เป็นการปรับขึ้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากปัจจุบันมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอัตรา 5 บาทต่อลิตร และผู้ใช้น้ำมันดีเซลส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย แต่ภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินจัดเก็บเพียง 20 สตางค์ต่อลิตร

ส่วนความคืบหน้าการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชามติ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกาชุดพิเศษได้พิจารณาฉบับแก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้วตามข้อสังเกตฯ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียด โดยจะนัดประชุมคณะกรรมการอีกครั้งในสัปดาห์นี้

ขณะที่การทบทวนร่างพระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เปิดเผยผลการประชุมตามประเด็นที่มีการให้ความเห็น ซึ่งได้ข้อสรุปว่า กมธ.จะคงชื่อร่างกฎหมายไว้เหมือนเดิม ขณะที่ประเด็นการปรับปรุงกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชนแห่งชาติ ส่วนของที่มาจากปลัดกระทรวง 4 กระทรวง, กรณีลดจำนวนกรรมการสภาวิชาชีพฯ ที่มาจากตัวแทนภาครัฐ, การปรับปรุงเนื้อหาต่อประเด็นการให้สิทธิผู้เสียหายต่อการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนฟ้องร้องต่อศาล หรือกรรมการสภาวิชาชีพ, ประเด็นการพิจารณาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน และประเด็นการเขียนเนื้อหาที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญนั้นมอบให้ กมธ.ด้านการสื่อสารมวลชน ไปพิจารณาหารูปแบบที่เหมาะสม รวมถึงให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาเนื้อหาที่เหมาะสม และไม่กระทบต่อประโยชน์สาธารณะ โดยให้นำกลับมาเสนอต่อที่ประชุม กมธ.ด้านสื่อสารมวลชนในการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 14 กุมภาพันธ์

เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณากลั่นกรองเรื่องเสนอคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความปรองดอง หรือ ป.ย.ป. จำนวน 4 คณะโดยคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เป็นรองประธานคนที่ 1 และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นรองประธานคนที่ 2, คณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯ เป็นรองประธานคนที่ 1 และ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกฯ เป็นรองประธานคนที่ 2, คณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง  รองนายกฯ เป็นรองประธาน, คณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นรองประธาน

ส่วนกรณีบริษัทโรลส์-รอยซ์ จ่ายสินบนจัดซื้อเครื่องยนต์ และนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยชื่อย่อบุคคลที่เกี่ยวพันกับการรับสินบนในปี 2534 นั้น  นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า เป็นข้อมูลตรงกับของ ป.ป.ช. เพราะเป็นผู้รับผิดชอบการจัดซื้อเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ ในช่วงเวลานั้น แต่ยังต้องรอข้อมูลจากสำนักงานปราบปรามการฉ้อฉลร้ายแรง (เอสเอฟโอ) ของสหราชอาณาจักร มั่นใจว่าจะสามารถหาตัวผู้รับสินบนได้ เพื่อนำไปสู่การตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน

..