รมว.คลัง ยืนยัน เงินคงคลังอยู่ในระดับต่ำ เพราะไม่ต้องการกู้เงินมากองไว้ ย้ำ ขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบินเพื่อความเป็นธรรม

สถานการะการคลังของประเทศ  นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ระดับเงินคงคลังในเดือนธันวาคม 2559 ที่ต่ำถึง 7.49 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเป็นการบริหารจัดการของกระทรวงการคลังที่ไม่ต้องการกู้เงินมากองไว้ จะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย โดยมีการประเมินว่าระดับเงินคงคลังควรอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท-1 แสนล้านบาท ดังนั้น การมีระดับเงินคงคลัง 3-5 แสนล้านบาท ถือว่ามากเกินไป ดังนั้น การที่เงินคงคลังไม่สูงมาก จะช่วยทำให้รัฐบาลประหยัดดอกเบี้ย 1 แสนล้านบาท ประหยัดได้ถึง 2,000 ล้านบาท สามารถนำเงินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้

โดยขณะนี้กำลังศึกษาแก้กฎหมายของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เพื่อดูได้ไม่ต้องเร่งกู้เงินในช่วงปลายปีงบประมาณ และนำมาเก็บไว้เสียดอกเบี้ย ปกติปลายปีงบประมาณคือเดือนกันยายนของทุกปี สบน.เร่งกู้เงินมากองไว้ ตามกฎหมายกำหนดว่าถ้าไม่กู้เงินดังกล่าวต้องพับไป (ยกเลิก)กระทรวงการคลังเปลี่ยนระบบวิธีการบริหารจัดการเงินคงคลังใหม่ และเร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อนำไปใช้ในโครงการต่างๆ   โดยช่วงต้นปีงบประมาณเงินคงคลังจะต่ำ เนื่องจากภาษียังไม่เข้ามา ยิ่งปี 2559 ต่ำกว่าทุกปี

นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ยืนยันว่าการขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเครื่อง ไม่เกี่ยวกับที่ถูกกล่าวหาว่ารัฐบาลถังแตก ถ้าดูแล้วรัฐบาลยังมีเงินอีกมาก ไม่ใช่แค่เงินคงคลัง แต่ยังสามารถกู้มาใช้ได้อีกจากการทำงบประมาณขาดดุล การขึ้นภาษีดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ที่ทำไมคนจนที่ใช้รถ โดยสารรถทัวร์ ต้องเสียภาษีน้ำมัน 3-5 บาทต่อลิตร แต่คนที่มีเงินขึ้นเครื่องเสียภาษีเพียง 20 สตางค์ต่อลิตร ส่วนในอนาคตจะมีการเก็บภาษีเพิ่มอีกหรือไม่ คงต้องดูตามความเหมาะสม

ก่อนหน้านี้ กรมสรรพสามิตปรับขึ้นภาษีเครื่องบินในประเทศ จากเดิม 20 สตางค์ เป็น 4 บาท/ลิตร