ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ตำหนินายเจมส์ โรบาร์ต ผู้พิพากษากลางสหรัฐฯ ประจำเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ที่มีคำตัดสินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาให้ยกเลิกคำสั่งห้ามพลเมืองประเทศชาวมุสลิม 7 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐฯ ซึ่งออกโดยรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นการชั่วคราว การตำหนิการทำหน้าที่ของผู้พิพากษากลางกระทำผ่านทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า ความคิดเห็นของผู้พิพากษา ทำให้การบังคับใช้กฎหมายในสหรัฐฯ ไม่ศักดิ์สิทธิ์นั้น และเป็นสิ่งที่ไร้สาระ โดยเขายืนกรานที่จะทำให้คำสั่งห้ามพลเมืองมุสลิมการเดินทางเข้าสหรัฐฯ กลับมามีผลบังคับใช้ได้อีกครั้งหนึ่ง
การที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะออกมาโจมตีการทำหน้าที่ของผู้พิพากษาไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยในสหรัฐฯ เนื่องจากระบบศาลมีความเป็นเอกเทศและไม่ขึ้นกับรัฐบาลกลาง ขณะเดียวกัน คำสั่งของศาลก็ถือเป็นก้าวแรกที่มีการใช้อำนาจตามกฎหมายในการท้าทายความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ที่พยายามควบคุมผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กำลังดำเนินการคืนวีซ่าให้กับพลเมืองจาก 7 ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งรวมถึงผู้ลี้ภัยด้วย โดยคาดว่ามีผู้ได้รับผลกระทบราว 60,000 คน และหลังจากทราบคำตัดสินของผู้พิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งการห้ามพลเมือง 7 ประเทศเข้าสหรัฐฯ แล้ว บรรดาผู้ลี้ภัยและผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ต่างแสดงความยินดีต่อคำพิพากษา หลายคนเตรียมตัวเดินทางสู่สหรัฐฯ ในทันที รวมถึงครอบครัวของนายฟูอัด ชาเรฟ ชาวอิรักที่ได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยในสหรัฐฯ เพราะเดิมพวกเขามีกำหนดเดินทางถึงสหรัฐฯ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เช่นเดียวกับนายแพทย์มาเฮอร์ ซาลัม แพทย์ด้านระบบทางเดินทางอาหารในเมืองคลีฟแลนด์ที่ไปรอรับมารดาเชื้อสายซีเรียที่สนามบิน โดยมารดาของเขาไม่สามารถเดินทางจากกรุงริยาดของซาอุดีอาระเบียกลับเข้าสหรัฐฯ ได้ตามกำหนด แม้ว่าจะมีบัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรอย่างถูกกฎหมายในสหรัฐฯ หรือกรีนการ์ด นายแพทย์ซาลัมวิจารณ์ว่าคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ถือเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างมาก นอกจากนั้นวานนี้กลุ่มทนายความด้านการช่วยเหลือผู้เดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ ยังได้ไปรวมตัวกันที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคเนดี้ ในมหานครนิวยอร์กเพื่อคอยให้ความช่วยเหลือแก่ผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ด้านกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ เผยว่าจะดำเนินการตรวจสอบผู้ที่เดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ ตามกระบวนการปกติ หลังจากที่ผู้พิพากษาโรบาร์ตมีคำตัดสินยกเลิกคำสั่งห้ามพลเมืองชาวมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันที่มีต่อคำสั่งห้ามพลเมืองชาวมุสลิม 7 ประเทศเข้าสหรัฐฯ โดยรอยเตอร์และอิปซอสล่าสุด ระบุว่าชาวอเมริกันร้อยละ 49 เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว ขณะที่อีกร้อยละ 41 ไม่เห็นด้วย
**7.06F174**