รอยเตอร์ รายงานว่า ทนายความของกระทรวงยุติธรรมทั่วประเทศสหรัฐฯ จะปกป้องเรื่องคำสั่งห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐฯชั่วคราวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคำสั่งที่อัยการสูงสุดหลายคนระบุว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้นายทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทบผู้ถือพาสปอร์ตจากอิหร่าน,อิรัก,ลิเบีย,โซมาเลีย,ซูดาน,ซีเรียและเยเมน และระงับโครงการรับผู้อพยพเข้าสหรัฐฯชั่วคราว
ด้านทำเนียบขาว โต้แย้งว่ามาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อความมั่นคงของประเทศ แต่อัยการสูงสุดจากพรรคเดโมแครตในหลายรัฐของสหรัฐฯกล่าวถึงคำสั่งดังกล่าวว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน ผู้พิพากษารัฐบาลกลางในเมืองบอสตัน,เมืองซีแอตเทิล,รัฐเวอร์จิเนีย,รัฐมินนิโซตาและรัฐวอชิงตัน จะพิจารณาคำคัดค้านตามที่มีการยื่นเสนอต่อศาลโดยกลุ่มสนับสนุนสิทธิพลเมืองในหลายรัฐ คัดค้านคำสั่งของนายทรัมป์ ผู้คัดค้านขอให้ศาลมีคำสั่งระงับใช้นโยบายนั้นทั่วประเทศ นับว่าเป็นคำตัดสินที่อาจจะมีผลกระทบต่อคำสั่งของนายทรัมป์มากที่สุด
หากศาลมีคำชี้ขาดว่าคำคัดค้านในรัฐวอชิงตันและรัฐมินนิโซตามีเหตุผลทางกฎหมาย อัยการสูงสุดของพรรคเดโมแครต อาจจะยื่นคำร้องต่อศาลคัดค้านนโยบายของนายทรัมป์อีกหลายเรื่องนอกเหนือจากเรื่องนโยบายคนเข้าเมือง
ส่วนในรัฐแมสซาชูเซตส์ องค์กรอ็อกแฟม องค์การแก้ไขปัญหาความยากจนและพลเมืองอิหร่าน 7 คนจะร้องขอให้ผู้พิพากษาเมืองบอสตันให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้คำสั่งศาลตามที่ประกาศใช้เมื่อวันอาทิตย์ต่อไปอีกระยะหนึ่งคือห้ามกักขัง หรือส่งกลับประเทศสำหรับกลุ่มผู้อพยพที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในสหรัฐฯอยู่ก่อนแล้ว รวมทั้งผู้ถือวีซาและมีถิ่นที่อยู่ถาวรในสหรัฐฯที่มาจาก 7 ประเทศมุสลิมดังกล่าว
ทีมต่างประเทศ
CR:REUTERS