ข่าวเที่ยงครึ่ง
+++หลังพบตัวนายฮาร์กา บาฮาดู ซุบบา อายุ 39 ปี หนึ่งในคณะครูจากประเทศภูฏาน ที่เดินทางมาดูงานในประเทศไทย แล้วพลัดหลงจากคณะบริเวณหน้าโรงแรมย่านพหลโยธิน เมื่อวันที่23 มกราคม ในวันนี้ นายนายนีมา เชมโป (Ngeema Sangay Tshempo ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและทรัพยากรมนุษย์ ประจำประเทศภูฏาน และนายอูเยน ดอร์จิ กงสุลประเทศภูฏาณ เดินทางเข้าเยี่ยม นายฮาร์กา ที่วันนี้ มีสีหน้ายิ้มแย้มและพูดคุยได้ตามปกติ แต่ยังมีสีหน้าอิดโรยและบาดแผลถลอกตามร่างกาย ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยังได้ขอบคุณทีมแพทย์ ตำรวจ รัฐบาลและคนไทยที่ให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี
ส่วน พล.ต.ท.นพ.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า คนไข้มีภาวะขาซ้ายบวมมีหนอง แผลติดเชื้อจึงทำให้มีไข้ แพทย์ต้องให้ยาฆ่าเชื้อ และเกลือแร่ เนื่องจากคนไข้ขาดสารอาหาร เป็นเวลาหลายวัน และยังคงต้องรอ การตรวจหาสารพิษอีก1-2 วัน แต่แม้คนไข้จะอาการปลอดภัยแล้วแพทย์ก็จะต้องดูอาการวันต่อวัน โดยคาดว่าประมาณ 5-7 วัน จะสามารถออกจากโรงพยาบาลและเดินทางกลับประเทศได้
ด้านพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จะต้องรอให้คนไข้อาการดีขึ้นก่อนสอบถามสาเหตุและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ยืนยัน ตำรวจ จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการรักษาพยาบาล และข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง ซึ่งในกรณีนี้ มีการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล จึงไม่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย
+++ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีตำรวจปฏิบัติการ "ชัยยะ สยบไพรี 60/1" ปิดล้อมจับกุมตัว นายไซซะนะ แก้วพิมพา หนุ่มใหญ่ไฮโซชาวลาว พ่อค้ายาเสพติดระดับอาเซียน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในฐานะเครือข่ายยาเสพติดที่พัวพันกับคนมีชื่อเสียง โดยกรณีดังกล่าวทหาร และตำรวจบูรณาการความร่วมมือในการดูแลตามแนวชายแดนอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะยาเสพติดเพียงอย่างเดียว รวมถึงสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆที่ลักลอบเข้าประเทศด้วย ดังนั้นไม่ต้องเน้นย้ำเจ้าหน้าที่อะไรมาก ส่วนเครือข่ายดังกล่าวจะพัวพันกับดาราหรือคนมีชื่อเสียงหรือไม่นั้น ต้องรอทางตำรวจดำเนินการสอบสวนอยู่
+++มีรายงาน นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ "เบนซ์ เรซซิ่ง" และ แพท ณปภา ได้หารือทนายส่วนตัว ซึ่งทั้งคู่ จะยังไม่เดินทางไปพบกับตำรวจ ปส. ในวันนี้ โดยให้ทนายความขอเลื่อนการชี้แจงออกไปก่อน เนื่องจากอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับการทำธุรกิจทั้งหมดแต่ล่าสุดพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาย รองผบ.ตร.แจ้งว่า ในเวลา 15.00 น. จะมีการเข้าให้ปากคำของนายเบนซ์ และ แพท ที่บช.ปส. ห้องประชุมภักดีภูมิ
+++น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาฟังการไต่สวนพยานจำเลยคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พร้อมกล่าวถึงความคืบหน้าการขอทุเลาคำสั่งทางปกครองในการยึดทรัพย์คดีจำนำข้าวต่อศาลปกครองว่า ขณะนี้ผู้ถูกฟ้องขอเลื่อนคำโต้แย้งให้การต่อศาล คงต้องรอหลังจากที่ผู้ถูกฟ้องแก้คำโต้แย้งแล้วเสร็จใน 30 วัน ซึ่งศาลปกครองคงจะนัดมาอีกครั้ง ขณะเดียวกันตนก็ต้องทำคำชี้แจงเพิ่มเติมต่อศาลและได้ส่งคำชี้แจงไปแล้ว โดยรายละเอียดที่ส่งไปชี้แจงว่าคดียังอยู่ในการไต่สวนของคดีอาญาและศาลปกครองได้รับคำร้องไว้แล้ว แต่ขณะนี้กรมบังคับคดีจะต้องดำเนินตามคำสั่งมาตรา 44 ที่จะให้เข้ามายึดและอายัดทรัพย์ได้ทันที เรื่องนี้ทำให้ตนมีความลำบากมาก เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด ทั้งที่ยังไม่รู้ผลคดีอาญาก็จะเป็นการชี้นำ ส่วนคดีจำนำข้าวใกล้ถึงที่สิ้นสุด มั่นใจหรือไม่ว่าจะชนะคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ได้ทำอย่างเต็มที่ และพยานทุกปากที่นำมาสืบต่อหน้าศาลได้ทำอย่างเต็มที่ โดยชี้แจงทุกข้อกล่าวหา ส่วนผลจะเป็นอย่างไรอยู่ที่ดุลพินิจขององค์คณะ คงไม่สามารถพูดอะไรได้
ส่วนมองอย่างไรที่ประเทศไทยถูกสื่อนอกวิเคราะห์ว่า เป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการทำรัฐประหารเป็นอันดับ 2 ของโลก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็คงต้องช่วยกัน อย่างไรก็ตามคงอยู่ที่รัฐบาลหรือทาง คสช.ที่จะให้ความมั่นใจว่าไม่ทำให้มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก ความจริงแล้วเราไม่ควรจะเกิดรัฐประหาร ในอดีตที่ผ่านมาไม่ควรจะเกิดเลยด้วยซ้ำไป เพราะโลกในวันนี้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว จะรัฐประหารแบบไหนก็ตาม ไม่ควรจะเกิดขึ้น ก็ขอร้องทุกฝ่าย อย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย และขอให้การรัฐประหารที่ผ่านมาเป็นครั้งสุดท้าย
+++ นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำมันว่ายังมีความผันผวน โดยขณะนี้ค่าการตลาดราคาขายปลีกน้ำมันที่ ปรับตัวลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 1.20 บาท/ลิตร ซึ่งต้องติดตามราคาน้ำมันสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ อาจจะปรับขึ้นราคาในวันที่ 3 ก.พ. 2560 แต่ไม่น่าจะปรับขึ้นมากนัก ปัจจัยบวกที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวขึ้น คือการที่ประเทศกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) ปรับลดกำลังการผลิตลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ประกอบกับนโยบายของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่มีนโยบายกระตุ้นการลงทุนในประเทศ ซึ่งเป็นผลบวกต่อธุรกิจน้ำมันและอาจทำให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นหลัง นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน เนื่องจาก อิหร่านออกมายืนยันว่าเพิ่งดำเนินการทดสอบขีปนาวุธเพื่อตอบโต้ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากการ ที่นายทรัมป์เคยประกาศแผนในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งว่าจะหยุดการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับขีปนาวุธของอิหร่าน
รวมถึงประเด็นที่บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย ขายหุ้นในแหล่งบงกชให้บริษัทในคูเวตเข้ามารับช่วงกิจการแทนนั้น เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหากับบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. ที่ดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าว แต่ทั้งสองน่าจะเป็นพันธมิตรธุรกิจที่ดีต่อกัน โดยเบื้องต้นคูเวตมีความสนใจที่จะลงทุนในธุรกิจต้นน้ำและปลายน้ำและ อาจมีโอกาสลงทุนในธุรกิจปั๊มน้ำมันในอนาคต เพราะที่ผ่านมาเคยมีผู้ประกอบการชาวอาหรับเข้ามาลงทุนปั๊มน้ำมันคิวเอทในประเทศไทย แต่ไม่ได้ลงทุนต่อเนื่อง ด้าน นายนพดล ปิ่นสุภา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. กล่าวว่า แผนซ่อมบำรุงแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติแหล่งซอติก้า จะมีขึ้นวันที่ 3-12 ก.พ. จะทำให้ก๊าซหายไปจากระบบ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุต/ต่อวัน แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณการใช้ก๊าซในประเทศ
+++ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐขู่ว่าจะตัดเงินช่วยเหลือมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์กลีย์ หลังเกิดเหตุประท้วง ขว้างปากระจกอาคารและวางเพลิงเพื่อกดดันให้ยกเลิกการกล่าวบรรยายของนายมิโล เยียนโนปูลอส บรรณาธิการเบรตบาร์ต นิวส์ ซึ่งมีแนวคิดขวาจัด ประธานาธิบดีทรัมป์ ทวีตเตอร์ข้อความเมื่อเวลา 6.13 น.ตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่า หากยูซีเบิร์กลีย์ไม่อนุญาตให้มีการแสดงความเห็นอย่างเสรี และยังสนับสนุนการละเมิดผู้บริสุทธิ์ที่แสดงความเห็นที่แตกต่างก็ไม่สมควรได้รับเงินสนับสนุน อย่างไรก็ตามการพิจารณางบประมาณของมหาวิทยาลัยไม่ใช่หน้าที่โดยตรงของประธานาธิบดี