อดีตปธน.อินโดฯ ระบุถูกดักฟังโทรศัพท์/หญิงอินโดฯเป็นมือระเบิดกลุ่มไอเอสมากขึ้น/หุ้นสหรัฐฯขานรับเฟดคงดอกเบี้ย

 +++อดีตประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุดโฮโยโน ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างปี พ.ศ. 2547 - 2557 และปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปไตย เปิดเผยว่า เขาและญาติทุกคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือให้การสนับสนุนการเดินขบวนครั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว ที่เรียกร้องให้จำคุก นายบาสุกี ทยาฮายา ปูร์นามา หรือ อาฮอค ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา พันธมิตรการเมืองของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ผู้นำคนปัจจุบัน ฐานดูหมิ่นศาสนา รวมทั้งแผนการก่อกบฏ  

+++อดีตประธานาธิบดียุดโฮโยโน ระบุว่า ถูกดักฟังทางโทรศัพท์ เนื่องจาก ระหว่างขึ้นศาล ทนายความกล่าวว่า มีหลักฐานว่า พล.อ. ยุดโฮโยโน โทรศัพท์ถึงนักการศาสนารายหนึ่ง เรียกร้องให้ออกข้อบัญญัติทางศาสนา เพื่อประกาศให้นายปูร์นามา มีความผิดฐานดูหมิ่นศาสนา โดยระบุว่า ถ้าการพูดคุยทางโทรศัพท์ถูกดักฟังโดยไม่มีเหตุผลทางกฎหมาย หรือมีคำสั่งศาล นี่ก็หมายความว่าเป็นการดักฟังโดยผิดกฎหมาย และขอคำอธิบายจากประธานาธิบดีวิโดโด เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

+++รอยเตอร์ รายงานอ้างอัยการสูงสุดประจำเมืองแฟรงค์เฟิร์ต เยอรมนีว่า ตำรวจกว่า 1,100 คนได้ตรวจค้นบ้านเรือน อาคารธุรกิจและมัสยิดราว 54 แห่งในเมืองแฟรงค์เฟิร์ตและอีกหลายเมืองในรัฐเฮ็สส์ทางภาคตะวันตกของประเทศ และจับกุมชายชาวตูนีเซียวัย 36 ปี ฐานต้องสงสัยวางแผนโจมตีและต้องสงสัยว่าทำหน้าที่รับสมัครกลุ่มนักรบให้กับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558 และสร้างเครือข่ายกลุ่มผู้สนับสนุนโดยมีเป้าหมายคือการก่อการร้ายขึ้นในเยอรมนี แต่จับกุมผู้ต้องสงสัยรายนี้ เพิ่มเติมว่าแผนโจมตีอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้นและยังไม่มีเป้าหมายที่จะทำการโจมตีอย่างชัดเจน

+++ระหว่างการตรวจค้น ตำรวจสอบปากคำผู้ต้องสงสัย 16 คน อายุระหว่าง 16-46 ปี

+++ด้านนายปีเตอร์ เบอุธ รัฐมนตรีความมั่นคงภายในประจำรัฐเฮ็สส์ กล่าวว่า ยังไม่มีอันตรายขึ้นอย่างชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงในรัฐเฮ็สส์สามารถขัดขวางไม่ให้เกิดเหตุร้าย เพื่อปกป้องพลเมืองให้พ้นจากภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น หลังนายอานิส อัมรี ผู้ขอลี้ภัยชาวตูนีเซียที่ไม่ผ่านการอนุมัติให้ลี้ภัยในเยอรมนีขับรถพุ่งชนคนในตลาดคริสต์มาสของกรุงเบอร์ลินเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน มีคนเสียชีวิต 12 ศพ นับเป็นเหตุโจมตีพลเรือนครั้งร้ายแรงที่สุดในเยอรมนีเมื่อปีที่แล้ว

+++เอเอฟพี รายงานอ้างผลศึกษาของนายซิดนีย์ โจนส์ นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงจากสถาบันวิเคราะห์นโยบายด้านความขัดแย้ง(ไอพีเอซี)ในกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซียว่า สตรีชาวอินโดนีเซีย ต้องการจะมีบทบาทนำมากขึ้นในเรื่องการใช้ความรุนแรงตามอุดมการณ์กลุ่มหัวรุนแรง แทนที่เป็นเพียงผู้สนับสนุนสามีที่ฝักใฝ่อุดการณ์หัวรุนแรง บางคนถึงขั้นต้องการจะเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มไอเอส ระบุว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหม่สำหรับอินโดนีเซีย สตรีอินโดนีเซียในองค์กรหัวรุนแรงเริ่มฝึกใช้อาวุธร้ายแรงในพื้นที่บางแห่งของโลกที่สำคัญคือสื่อสังคมออนไลน์ช่วยให้สตรีดังกล่าวได้อ่านโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มหัวรุนแรงและเข้าร่วมสนทนาในกลุ่มได้อย่างสะดวกมากกว่าแต่ก่อน ไอพีเอซีเรียกร้องให้รัฐบาลอินโดนีเซีย พยายามค้นหาเครือข่าวสตรีหัวรุนแรงให้มากขึ้นรวมถึงสัมภาษณ์สตรีหลายคนซึ่งถูกเนรเทศจากตุรกีฐานพยายามจะข้ามแดนเข้าไปยังซีเรียเพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส

+++ ปัญหานี้เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นหลังการจับกุมอดีตแม่บ้านชาวอินโดนีเซีย 2 คนคือนางเดียน ยูเลีย โนวิและนางอิกา ปุสปิตาซารี เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วฐานมีความเชื่อมโยงกับแผนเตรียมก่อเหตุโจมตีแบบฆ่าตัวตายในนามกลุ่มไอเอสในกรุงจาการ์ตาและเกาะบาหลี นอกจากนั้นสตรีอีกคนถูกจับกุมฐานจัดตั้งองค์กรการกุศลเพื่อสนับสนุนกลุ่มไอเอสและฐานอยู่ร่วมกับกลุ่มติดอาวุธบนเกาะสุลาเวสี

+++บีบีซี รายงานอ้างสื่อท้องถิ่นตุรกีว่า ชายที่มีอาวุธคนหนึ่งขังตัวเองอยู่ในห้องๆหนึ่งของโรงพยาบาลจิตเวช เซราห์ปาซาในเมืองอิสตันบูล ได้ยุติการขู่ฆ่าตัวตายแล้ว ก่อนหน้านี้คนไข้และเจ้าหน้าที่ถูกอพยพออกจากโรงพยาบาล หลังชายดังกล่าวซึ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนั้นขู่จะฆ่าตัวตายและฆ่าคนอื่นๆมีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนไปร่วมเจรจากับชายดังกล่าวที่ได้รับการรักษาอาการป่วยทางจิตมาตลอด 2 ปี โรงพยาบาลเคยมีคำสั่งห้ามพกอาวุธ แต่เขาลักลอบพกอาวุธและก่อเหตุขู่ดังกล่าว

+++รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แถลงว่า คำสั่งห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐฯของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นอำนาจอธิปไตยของสหรัฐฯ และไม่ได้มีเป้าหมายต่อต้านศาสนาอิสลามโดยตรง  เชค อับดุลลาห์ บิน ซาเอ็ด รัฐมนตรีต่างประเทศยูเออี แถลงข่าวร่วมกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียที่กรุงอาบูดาบีว่า แผนการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัยในซีเรียจะเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายหากเป็นการชั่วคราวและเพื่อจุดประสงค์ด้านมนุษยธรรมตามหลักการระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตามสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต้องการให้สหรัฐฯชี้แจงรายละเอียดก่อนสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว

+++ซีเอ็นเอ็น รายงานว่ากรณีนายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯกล่าวหารัฐบาลเยอรมนีว่าใช้เงินยูโรที่ถูกปรับลดมูลค่าเกินจริงมากทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ สร้างความไม่พอใจให้กับนายกรัฐมนตรีอังเกล แมร์เคิลของเยอรมนีทันที นางแมร์เคิลระบุว่าเยอรมนีเป็นประเทศที่เรียกร้องให้ธนาคารกลางแห่งยุโรปใช้นโยบายที่เป็นอิสระ ดังเช่นบุนเดสแบงค์ หรือธนาคารกลางของเยอรมนีดำเนินการมาตลอดตั้งแต่ก่อนมีการจัดตั้งเงินสกุลยูโร เยอรมนีได้เปรียบดุลการค้าจำนวนมากเนื่องจากส่งออกสินค้าเป็นจำนวนสูงกว่านำเข้า ในช่วง 11 เดือนแรกของปีที่แล้วเยอรมนีมีดุลการค้าเกินดุลรวมทั้งสิ้น 2 แสน 5 หมื่น 5 พันล้านยูโร

+++นายอรุณ ไจท์ลีย์ รัฐมนตรีคลังอินเดีย แถลงต่อรัฐสภาในกรุงเดลีเรื่องรายละเอียดแผนประมาณประจำปี ให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะเพิ่มงบกระตุ้นเศรษฐกิจของชนบทอินเดียให้มากขึ้น คาดว่าจะช่วยให้ชาวอินเดียจำนวนมากหลุดพ้นปัญหาความยากจน รัฐบาลมีแผนจะก่อสร้างเขื่อน,ถนน,ขยายระบบไฟฟ้าและการส่งเสริมสุขอนามัยเข้าสู่หมู่บ้านต่างๆ นอกจากนั้น เกษตรกรจะสามารถขอสินเชื่อบางส่วนไปใช้ประกอบอาชีพ รัฐบาลวางแผนจะจัดสรรงบประมาณจำนวน 7,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อประกันการทำงานของทุกๆครัวเรือนในชนบทเป็นระยะเวลา 100 วันต่อปี

+++แผนดังกล่าวมีขึ้นหลายเดือนหลังการประกาศยกเลิกธนบัตรที่มีมูลค่าสูงของอินเดียสร้างความปั่นป่วนให้กับระบบเศรษฐกิจ กระทบเกษตรกรและคนยากจนมากที่สุด คาดว่าเศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตร้อยละ 6.5 ในปีงบประมาณ 2559 ที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคมปีนี้ ลดลงจากร้อยละ 7.6 ในปี 2558 แต่นายไจท์ลีย์กล่าวว่าอินเดียยังคงมีแนวโน้มที่สดใสในเศรษฐกิจโลก คาดว่า ผลกระทบในเชิงลบจากมาตรการยกเลิกธนบัตรรูปีใบละ 500 และ1,000 เพื่อมุ่งจะปราบปรามปัญหาคอร์รัปชั่นและการปลอมแปลงธนบัตรจะเริ่มคลี่คลายลงในเร็วๆนี้ ระบุว่ามาตรการเชิงรุกในครั้งนี้จะช่วยให้จีดีพีของประเทศขยายตัวมากขึ้นในระยะยาว มีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น และจะช่วยให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศโปร่งใสมากขึ้น

+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในกรอบแคบๆ จากแรงหนุนของหุ้นแอปเปิล และหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) คงอัตราดอกเบี้ย พร้อมมีมุมมองค่อนข้างสดใสต่อภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ  ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 26.85 จุด ปิดที่ 19,890.94 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.68 จุด ปิดที่ 2,279.55 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 27.87 จุด  ปิดที่ 5,642.65 จุด ในการประชุมครั้งแรกนับตั้งแต่นายทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด เปิดเผยว่า การจ้างงานยังคงแข็งแกร่งและภาวะเงินเฟ้อดีขึ้น ส่งสัญญาณถึงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่บนพื้นฐานที่ดี แม้ยังไม่แย้มอย่างชัดเจนเกี่ยวกับกรอบเวลาของการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไป

+++ราคาทองคำ ตลาดโคเม็กซ์ ที่ปิดการซื้อขายก่อนคำแถลงเฟด ลดลง 3.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,208.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

CR:AFP