ซีเอ็นเอ็นรายงานว่ากรณีนายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯกล่าวหารัฐบาลเยอรมนีว่าใช้เงินยูโรที่ถูกปรับลดมูลค่าเกินจริงมากให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ สร้างความไม่พอใจให้กับนายกรัฐมนตรีอังเกล แมร์เคิลของเยอรมนีทันที นางแมร์เคิลระบุว่าเยอรมนีเป็นประเทศที่เรียกร้องให้ธนาคารกลางแห่งยุโรปใช้นโยบายที่เป็นอิสระ ดังเช่นบุนเดสแบงค์ หรือธนาคารกลางของเยอรมนีดำเนินการมาตลอดตั้งแต่ก่อนมีการจัดตั้งเงินสกุลยูโร ระบุว่าแม้แต่รัฐบาลเยอรมนีก็ไม่อาจจะโน้มน้าวธนาคารกลางแห่งยุโรปให้เอื้อประโยชน์ได้
ที่ผ่านมาเยอรมนีได้เปรียบดุลการค้าจำนวนมากเนื่องจากส่งออกสินค้าเป็นจำนวนสูงกว่านำเข้า ในช่วง 11 เดือนแรกของปีที่แล้วเยอรมนีมีดุลการค้าเกินดุลรวมทั้งสิ้น 2 แสน 5 หมื่น 5 พันล้านยูโร นักเศรษฐศาสตร์หลายคนรวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารกลางแห่งยุโรปเตือนมานานแล้วว่าการที่เยอรมนีได้เปรียบดุลการค้ามากกว่าประเทศอื่นๆเสี่ยงต่อกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร(ยูโรโซน) แต่พวกเขาระบุว่าธนาคารกลางแห่งยุโรปมีนโยบายทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลง ไม่ใช่การสั่งการจากรัฐบาลเยอรมนี
ก่อนหน้านั้นในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ของอังกฤษเมื่อวานนี้ นายนาวาร์โร ระบุว่าเยอรมนียังคงเอาเปรียบประเทศอื่นๆในยุโรปและสหรัฐฯด้วยนโยบายเงินยูโร หรือเปรียบเสมือนกับเงินดอยช์มาร์กโดยปริยายของเยอรมัน ที่ถูกลดค่าเงินให้ต่ำเกินจริง เงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังการแสดงความเห็นดังกล่าว แข็งค่าขึ้นเกือบร้อยละ 1 เทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆในการซื้อขายในภาคบ่ายวันนี้ สำหรับนายนาวาร์โร นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสภาการค้าแห่งชาติสหรัฐฯของนายทรัมป์ ยังได้วิจารณ์นโยบายการค้าของจีนซึ่งเขาอ้างว่าทำให้สหรัฐฯสูญเสียตำแหน่งงานในโรงงานผลิตไปจำนวนมาก/20.20 น.