หลายประเทศในเอเชียรวมถึงไทย ปรับเป้าส่งเสริมการท่องเที่ยวและการศึกษา เชื่อได้อานิสงค์จากคำสั่งห้ามมุสลิมเข้าสหรัฐฯของทรัมป์

รอยเตอร์รายงานอ้างนายโทนี เฟอร์นันเดซ ซีอีโอของแอร์เอเชีย สายการบินราคาประหยัดขนาดใหญ่ที่สุดของเอเชีย ซึ่งทวีตข้อความว่า บริษัทเอกชนและเจ้าหน้าที่รัฐบาลของหลายประเทศในเอเชียพูดว่าพวกเขาตั้งเป้าจะส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวและการศึกษากับกลุ่มประเทศมุสลิมให้มากยิ่งขึ้น หวังสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจขึ้นจากนโยบายการจำกัดชาวมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ระบุว่า มาเลเซียซึ่งมีประชากรมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ประเมินว่าสมาชิก 10 ชาติในกลุ่มอาเซียนมีโอกาสจะสร้างรายได้เข้าประเทศมากขึ้น เพิ่มเติมว่านโยบายกีดกันของสหรัฐฯจะส่งผลให้กลุ่มประเทศในอาเซียนสามารถรณรงค์นักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้สะดวกยิ่งขึ้น

ที่ผ่านมา มาเลเซียเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง มีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางรวมถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์,ซาอุดิอาระเบีย,อิรักและกาตาร์เดินทางเข้ามาเลเซียเกือบ 2 แสนคนเมื่อปีที่แล้ว

ส่วนประเทศไทย เพื่อนบ้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกล่าวว่าคำสั่งห้ามมุสลิมของสหรัฐฯจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นเช่นกัน ระบุว่าตะวันออกกลางถือว่าเป็นตลาดใหญ่สำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ เพิ่มเติมว่าพวกเขาอาจจะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น

ด้านนางอลิเซีย ซีห์ ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์และการสื่อสารของบริษัทไดนาสตี ทราเวลของสิงคโปร์คาดว่าชาวสิงคโปร์จะเลือกไปท่องเที่ยวในประเทศอื่นๆแทนคือ ออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์,แคนาดาหรือเที่ยวในเอเชีย ด้านนายโรด โจนส์ ซีอีโอบริษัทนาวิตัส จำกัด บริษัทด้านการศึกษาของออสเตรเลียกล่าวว่าบริษัทฯได้รับการติดต่อสอบถามน้อยลงสำหรับโครงการหลักสูตรภาษาอังกฤษในสหรัฐฯ โดยลูกค้าในแถบเอเชียเริ่มเลือกสถานที่เรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษในประเทศอื่นๆเช่นในออสเตรเลียและแคนาดา มากขึ้น/17.13 น.