นายกฯ ยืนยันการตั้งกก.ป.ย.ป. ไม่ได้เอื้อประโยชน์นักการเมือง

หลังการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ครั้งที่ 1/2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แจงโครงสร้างคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป)   ที่ทุกคณะจะมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแล ใน 4 คณะย่อย ซึ่งสิ่งสำคัญคือข้าราชการที่ปฏิบัติงานจะต้องมีความเข้มแข็ง โดยมีรัฐบาลเป็นผู้กำหนดแผนงาน เพื่อให้เกิดความชัดเจน และรัดกุม โดยเฉพาะการใช้งบประมาณจะต้องโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ และนอกจากนี้ ในส่วนของคณะกรรมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธาน ต้องมีคณะอนุกรรมการเพื่อขับเคลื่อนงานทั้งการเมือง กฎหมาย วิชาการเศรษฐกิจ สังคม ประชาคม ต่างประเทศและสื่อมวลชน เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนว่า การปรองดองไม่ใช่เป็นการออกคำสั่งตามมาตรา 44 นิรโทษกรรม แต่เป็นให้กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมถึงจะมีการอภัยโทษ ซึ่งคณะกรรมการปรองดองสำคัญที่สุดที่จะช่วยขับเคลื่อนอีก 3 คณะที่เหลือ สามารถเดินต่อไปได้

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลตั้งคณะกรรมการ ป.ย.ป.ขึ้นมา ไม่ได้มาหาผลประโยชน์หรือเอื้อประโยชน์ให้นักการเมืองเป็นพิเศษ เพื่อเข้าสู่กระบวนการปรองดอง และหากนักการเมืองไม่เข้าร่วมการเสนอแนะแนวทาง แก้ไขความขัดแย้งก็ไม่มีกฎหมายบังคับแต่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงด้วยว่ากระบวนการปรองดองไม่ได้เป็นการวางอนาคตทางการเมืองเพื่อตัวเอง เพราะไม่ได้ต้องการเข้ามาเป็นนักการเมือง ซึ่งส่วนตัวมองว่าการปรองดองทุกคนในประเทศจะต้องอยู่อย่างสงบ สันติ และสนับสนุนการทำงานของทุกรัฐบาล พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้รายชื่อของคณะกรรมการ ป.ย.ป คณะย่อยทุกคณะ ยังไม่แล้วเสร็จ แต่ยอมรับมีการทาบทามนายคณิต ณ นคร อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป.และนายแพทย์ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เข้าร่วม นอกจากนี้ ยังได้ยอมรับว่า กรณีสินบนโรลซ์รอยส์ ขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ของอังกฤษ มีความหนักใจที่จะส่งข้อมูลให้กับทางการไทย เพราะติดขัดข้อกฎหมายที่แต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน อย่างประเทศไทย ทั้งคนให้และคนรับก็มีความผิดเช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี