คดีการตัดงาช้าง ในหมู่บ้านช้างเพนียดหลวง หรือ เพนียดคล้องช้าง หลังจากเมื่อเช้าวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธร พระนครศรีอยุธยา รับแจังว่า มีคนร้ายฆ่าช้างเพื่อตัดงา ในหมู่บ้านช้างเพนียดหลวง หรือ เพนียดคล้องช้าง ตำรวจได้ลงพื้นที่พบ ช้างพลาย ชื่อ คล้าว อายุ 50 ปี น้ำหนัก4 ตัน ล้มตะแคงอยู่ริมแม่น้ำลพบุรี ที่ขามีโซ่ผูกล่ามไว้กับต้นไม้ เนื่องจาก พลายคล้าว มี อาการตกมัน ควาญช้างจึงนำมาแยกเลี้ยงไว้ จนกระทั้งเกิดเหตุ มีคนร้ายวางยาช้าง โดยผสมกับกล้วยน้ำวา ให้ช้างกิน เพื่อล้มช้างและตัดงา แต่จากการตรวจสอบคาดว่าคนร้ายน่าจะไม่ใช่มืออาชีพ เพราะหากเป็นมืออาชีพ ไม่จำเป็นต้องวางยาช้าง ก็สามารถตัดงาช้างได้ซึ่งความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจยังคงอยู่ระหว่างการสืบหาเบาะแสคนร้ายที่วางยาฆ่าช้าง โดยในวันนี้เวลา10.00น.จะมีการประชุมสรุปทิศทางและแนวทางการสืบคดี รวมถึงจะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ยาที่คนร้ายผสมใส่กล้วยให้ช้างกิน จนเป็นเหตุให้ช้างล่ม ว่าเป็นยาอะไร เพื่อนำไปประกอบการสืบหาตัวคนร้ายต่อไปในเบื้องตัน มีการตั้งข้อสังเกต คาดว่า คนร้ายน่าจะเป็นอดีตคนงานที่เคยทำงานที่เพนียดช้างและลาออกไป เนื่องจากมีพฤติกรรมขโมย รวมถึงเมื่อไปตรวจสอบที่บ้านไม่พบอดีตคนงาน ซึ่งตอนนี้ตำรวจกำลังสืบหาตัวเพื่อมาสอบปากคำ ส่วนเมื่อวานนี้มีการเรียกอดีตคนงานอีก1คนที่เป็นชาวลาวมาสอบปากคำ เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ พบว่า อดีตคนงานชาวลาว ตั้งวงดื่มสุราอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงและมีนิสัยชอบลักขโมย แต่ในเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ นอกจากนี้ ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นการจ้างวานตัดงาช้างตามใบสั่งด้วยอย่างไรก็ตามคดีดังกล่าวถือเป็นคดีใหญ่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากถือเป็นคดีการล้มช้างเพื่อตัดงาครั้งแรกกลางเมืองอยุธยา ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน
บุศรินทร์