ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทำเนียบขาวกระทำการใดๆ ที่เป็นลอบบี้เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยอ้างว่าเป็นการสานต่อนโยบายของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่ยังมีช่องว่างในการทำงาน และอดีตประธานาธิบดีโอบามามีคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบบี้เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่าการห้ามมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบบี้น่าจะรวมถึงการห้ามลอบบี้ในฐานะของรัฐบาลจากต่างประเทศด้วย
การลงนามในคำสั่งนี้มีขึ้นท่ามกลางบรรดาผู้ช่วยของเขา และต่อหน้าสื่อมวลชน และนอกจากคำสั่งห้ามการลอบบี้แล้ว ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับปรับโครงสร้างสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ หรือเอ็นเอสซี โดยเป็นการเพิ่มบทบาทหน้าที่แก่ที่ปรึกษาประจำตัวประธานาธิบดีทรัมป์ 2 คน ได้แก่ นายไมเคิล ฟลินน์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ และนายทอม บอสเสิร์ต ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งมอบหมายให้เอ็นเอสซีจัดทำแผนปฏิบัติการปราบปรามกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันด้วย ซึ่งกำหนดให้เอ็นเอสซีต้องเสนอกลยุทธ์แบบเบ็ดเสร็จ และให้มีการเปลี่ยนแปลงบทบาทในการดำเนินการปราบปรามกองกำลังไอเอส รวมทั้งการใช้กำลังทหาร และการแสวงหาพันธมิตรใหม่ในการปราบปรามกองกำลังไอเอส หลังจากการลงนาม ประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวแสดงความมั่นใจว่าแผนการดังกล่าวจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนด้วย
**7.56F174**