น้ำมันลด หลังเพิ่มการเดินเครื่องแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯ ผลประกอบการไม่ดี ฉุดหุ้นสหรัฐฯ

ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 61 เซนต์ ปิดที่ 53.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 72 เซนต์ ปิดที่ 55.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ข้อมูลรายสัปดาห์ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (27ม.ค.) พบว่ามีการเดินเครื่องแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ติดต่อกัน ซ้ำเติมความกังวลว่ากำลังผลิตน้ำมันดิบ จะกระทบความพยายามลดกำลังผลิตของชาติผู้ผลิตรายอื่นๆ  เบเกอร์ ฮิวส์ บริษัทผู้ให้บริการด้านพลังงาน ระบุว่า มีการเดินเครื่องแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 15 แท่น เป็น 566 แท่นในสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเกือบร้อยละ 14

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในกรอบแคบๆ จากการเติบโตช่วงไตรมาส 4 ที่ซึมเซาของสหรัฐฯและผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทชื่อดังหลายแห่ง ดาวโจนส์ ลดลง 7.13 จุด  ปิดที่ 20,093.78 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.99 จุด ปิดที่ 2,294.69 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 5.61 จุด ปิดที่ 5,660.78 จุด  กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผยเมื่อวันศุกร์เศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวอย่างรุนแรงในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2016 ถือเป็นไตรมาสที่ชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 จากตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯคาดหมายว่าเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม 2016 ขยายตัวเพียงร้อยละ1.9 ต่ำกว่าอัตราขยายตัวร้อยละ 3.5 ในไตรมาส 3 อย่างมาก และน้อยกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าน่าจะเติบโตราวร้อยละ 2.2

ส่วนราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ ปิดลบเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน จากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,188.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แฟ้มภาพ