เฝ้าระวังน้ำท่วม7จังหวัดเสียชีวิตแล้ว90/กม.พท.ยื่นเรื่องตรวจสอบเส้นทางทุจริตเครื่องยนต์

จากสถานการณ์น้ำท่วม นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่ามี 12 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 90 ราย ผู้สูญหาย 4 รายจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายและอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 5 จังหวัด ได้แก่ ระนอง กระบี่ ตรัง ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ยังคงมีสถานการณ์ใน 7 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สงขลา และพัทลุง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด

ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เช้าวันนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่มีการทุจริตในการจัดซื้อและเช่าเครื่องบินและเครื่องยนต์ ต่อเนื่องจากรณีที่ศาลต่างประเทศได้พบการทุจริต เพราะเชื่อว่าการจัดซื้อและเช่าเครื่องบินในปัจจุบันมีการทุจริตอย่างมาก โดยขอให้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.อังกฤษตรวจสอบให้ละเอียด ว่ามีการทุจริตจำนวนเท่าใด และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยคนใดบ้างที่เกี่ยวข้อง

นสพ. สรวิศ ธานีโต รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ในฐานะโฆษกกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ไข้หวัดนกที่มีการระบาดในหลายประเทศ และทำให้มีการควบคุมการค้าสัตว์ปีก ขณะที่มีความต้องการเนื้อไก่ในตลาดโลกมากขึ้น โดยส่วนของประเทศไทย ที่ไม่พบไข้หวัดนกมาตั้งแต่ปี 2549 และเนื้อไก่รวมถึงผลิตภัณฑ์ไก่ของไทยมีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ทำให้การสั่งซื้อสินค้าเนื้อไก่ของไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปีนี้ไทยจะส่งออกเนื้อไก่ผลิตภัณฑ์ เพิ่มขึ้นเป็น 760,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 97,900 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าไก่แปรรูปปรุงสุก 505,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าถึง 75,300 ล้าน และสินค้าไก่สดแช่แข็ง 255,000 ตัน มูลค่า 22,600 ล้าน และคาดว่าไทยจะมีกำลังการผลิตไก่เนื้อเพิ่มขึ้นเป็น 1,586 ล้านตัว มีเป้าหมายการเติบโตของตลาดส่งออกเนื้อไก่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3

ปิดท้ายที่รายงานเกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีน ที่มณฑลอันฮุยทางตอนกลางของจีน ตำรวจพบชายคนหนึ่งขี่จักรยานอยู่บนทางหลวงที่ห้ามรถจักรยานเข้า จึงเข้าไปสอบถาม และพบว่า ชายผู้นี้ต้องการปั่นจักรยานกลับบ้านที่มณฑลเฮย์หลงเจียงทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งอยู่ในทิศทางตรงกันข้ามและห่างออกไปนับพันกิโลเมตร

ตำรวจไม่ได้เปิดเผยชื่อของชายคนนี้  แต่บอกว่าเขาเป็นคนหนุ่ม มีฐานะยากจน และทำงานอยู่ในเมืองยี่เจ้า มณฑลซานตง มีความตั้งใจว่าจะเดินทางกลับบ้านเกิดที่เมืองฉีฉีหาร์ในมณฑลเฮย์หลงเจียง ห่างออกไปถึง 1,700 กิโลเมตรในช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่ด้วยความที่ไม่มีเงิน เขาจึงปั่นจักรยานกลับบ้าน โดยเริ่มออกเดินทางตั้งแต่เดือนธันวาคม โดยอาศัยค้างคืนตามร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่คิดค่าบริการถูก เขาอ่านแผนที่ไม่เป็น จึงใช้วิธีถามทางกับผู้คนที่พบระหว่างทางมาโดยตลอด ทำให้เขาหลงออกนอกเส้นทางกว่า 500 กิโลเมตร กว่าจะมาพบกับตำรวจ ซึ่งเป็นคนแรกที่ช่วยบอกให้เขารู้ว่ามาผิดทางไกลโขแล้ว

หลังจากนั้น ตำรวจกับเจ้าหน้าที่ด่านเก็บค่าผ่านทางจึงรวบรวมเงินเป็นค่าตั๋วรถไฟกลับบ้านให้ทันเทศกาลตรุษจีนในที่สุด

หลังจากนั้น ตำรวจกับเจ้าหน้าที่ด่านเก็บค่าผ่านทางจึงรวบรวมเงินเป็นค่าตั๋วรถไฟกลับบ้านให้ทันเทศกาลตรุษจีนในที่สุด

..