ข่าวเที่ยงครึ่ง
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีทหารกองทัพอากาศในพื้นที่ รอต้อนรับนายกฯ ได้ทักทายข้าราชการ พร้อมกล่าวว่า "เป็นกำลังใจให้ทุกคน ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ร่วมชะตากรรมเดียวกันกับประชาชน และตนด้วย" ก่อนที่จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ พร้อมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย , พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อตรวจพื้นที่ประสบอุทกภัยที่ อ.พุนพิน อ.บ้านนาเดิม และ อ.เคียนซา โดยใช้เวลาบินประมาณ 30 นาที ซึ่งนายกฯ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า "อย่าสนใจเรื่องอ่างบัวมากนักเลย มาสนใจเรื่องน้ำท่วมดีกว่า
+++จากนั้น ได้มายังโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี ต.เขาหัวควาย อ.พุนพิน เพื่อพบปะประชาชน และตรวจเยี่ยมการให้บริการช่วยเหลือ เยียวยาฟื้นฟูผู้ที่ประสบอุทกภัย พร้อมมอบเงินเยียวยาและถุงยังชีพ โดยมีประชาชนมาต้อนรับกว่า 5,000 คน ทั้งนี้ยังได้มอบเงินเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 15 ราย รายละ 50,000 บาท และถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด ให้กับผู้ประสบอุทกภัย และยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือและเยียวยาทุกด้าน ต่อมา นายกรัฐมนตรีได้ลงเรือที่บริเวณท่าเรือโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี เพื่อไปตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัย ตลอดสองฝั่งแม่น้ำตาปี และเข้าเยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านหนองจอก ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน
+++ตัวแทนกลุ่มธรรมาภิบาล นำโดย นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มฯพร้อมด้วยนายโยธิน ภมรมนตรี อดีตกัปตัน บริษัท การบินไทย และ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ยื่นหนังสือนายกรัฐมนตรี ผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชนฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบการพฤติกรรมของนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และนายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ โดยนายวิวัฒน์ ระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีที่นายจรัมพร อนุมัติการเดินทางซึ่งมีค่าวีซ่าระยะเวลา 10 ปีและค่าดำเนินการให้นายณรงค์ชัย ไปร่วมงานของบริษัทโบอิ้ง ประเทศ อังกฤษ เมื่อวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2559 จำนวนเงินกว่า 7 หมื่นบาท ทั้งที่นายณรงค์ชัย เป็นพนักงานจ้างตามสัญญา 4 ปี เหลืออายุปฏิบัติงานอีกประมาณ 19 เดือนเท่านั้น นอกจากนั้น ขอให้ตรวจสอบความโปร่งใสการจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส A340-500 และ A340-600 จำนวน 10 ลำ มูลค่า 55,249 ล้านบาท และการใช้เครื่องยนต์ของโรสส์รอยซ์ ซึ่งเครื่องบินทั้ง 10 ลำ ใช้งานเพียง 9 ถึง 10 ปี และหยุดทําการบินเมื่อปี 2556 ปัจจุบันปลดประจำการ จอดรอการขายต่อที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินอู่ตะเภา ทั้งที่ก่อนการจัดซื้อคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีความเห็นให้การบินไทยทบทวนโครงการดังกล่าวและนำเสนอโครงการใหม่ แต่การบินไทยก็ได้ดำเนินการจัดซื้อ และนำไปให้บริการจนขาดทุน ปีละ 3 ถึง 5 พันล้านบาท จนต้องหยุดให้บริการ แสดงให้เห็นว่าเป็นการจัดซื้อเครื่องบินที่ไม่น่าคุ้มค่าต่อการลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก ทั้งนี้ขอให้นายกฯใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตรวจสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งหมดในบริษัทการบินไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน โดยการตั้งคณะกรรมการพิเศษ โดยเฉพาะเพื่อตรวจสอบและให้ปฏิรูปทั้งระบบเพื่อให้เกิดความโปร่งใสไร้ทุจริตและประพฤติมิชอบแบบยั่งยืน
+++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีข้าราชการระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ขโมยรูปจากโรงแรมในประเทศญี่ปุ่น ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องตัวบุคคล อย่าเหมารวมทั้งหมด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เองก็ดูแลอยู่แล้ว และต้องให้ความยุติธรรมกับข้าราชการคนดังกล่าว แต่ทั้งนี้ไม่ได้ช่วยเหลือในทางที่ผิด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ต้องตรวจสอบต่อไป
+++น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า วันนี้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโอซากา ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ของไทยได้ประสานตำรวจญี่ปุ่นเพื่อขอเข้าพบ ซึ่งจะทำให้ทราบข้อเท็จจริงมากขึ้น และขณะนี้กำลังรอการพิจารณาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่น ส่วนกรณีที่มีรายงานว่า กระบวนทางกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น อาจะจะใช้เวลา 21 วันกว่าจะแจ้งข้อหาได้นั้น ขณะนี้รองอธิบดียังถือว่ายังอยู่ระหว่างการปฏิบัติงานและใช้สิทธิลาต่อ สำหรับ ขั้นตอนหลังจากถูกควบคุมตัว ผู้ต้องสงสัย จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด เพื่อรออัยการยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล และหากศาลรับฟ้องก็ต้องถูกคุมขังเพื่อรอวันนัดไต่สวนคดี ขั้นตอนแรกนี้จะใช้เวลาตั้งแต่ 45-90 วัน จึงจะเข้าสู่การพิจารณาคดี หมายความว่าในช่วงนี้รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญายังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้
+++ด้าน ข้าราชกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้พูดคุยกันถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าแม้ว่าจะพฤติกรรมข้าราชการระดับสูงจะทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศ ออกสื่อไปทั่วโลกอยู่ขณะนี้นั้น แต่หลังจากรับทราบจากสื่อในประเทศตลอดเมื่อวานนี้ ต่างรู้สึกสงสารผู้บริหารท่านนี้อย่างมาก โดยข้าราชการบางรายระบุว่า ท่านทำผิดหรือไม่ อย่างไร ไม่ใช่คดีไปฆ่าคนตาย และน่าจะให้ข้าราชการระดับสูงท่านนี้กลับมาชี้แจงข้อเท็จจริงก่อน ไม่ใช่มาตัดสินโทษทางสังคม จนอาจทำให้ข้าราชการระดับสูงดังกล่าวเกิดความเครียด คิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะทนแรงสังคมไทยไม่ไหว ดังนั้น การตัดสินคดี โดยเฉพาะสื่อมวลชนขณะนี้เป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลมากจนเกินไป และช่วง 2 ปี ที่ท่านทำงานที่กรมฯ เป็นคนดีรักลูกน้อง แต่อาจจะมีอารมย์เสียเรื่องสั่งงานแล้วไม่ได้ดั่งใจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการทำงาน จึงอยากให้สังคมเปิดใจบ้าง
+++นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์ด้านสัมพันธ์ครอบครัว ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า สื่อมวลชนมาสอบถามจิตแพทย์ ว่าพฤติกรรมการขโมยของมนุษย์ เกิดจากอะไรได้บ้าง นอกเหนือจาก “นิสัยแย่ๆ” จิตแพทย์ก็ให้ความรู้ไปตามหลักวิชาการ โดยกำชับว่าการให้ความรู้ครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับผู้ต้องหาใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากนั้นสื่อฯ ก็เอาไปบอกต่อๆ กัน และแต่ละสำนักข่าวก็เริ่มเขียนข่าว โดยพาดหัวข่าวดราม่าว่า จิตแพทย์ยืนยันมีแนวโน้มจะป่วยทางจิต (เป็นโรคบางชนิดที่ชอบลักขโมย) แต่ในเนื้อข่าวก็เขียนว่า จิตแพทย์ไม่ได้กล่าวถึงผู้ต้องหาคนดังกล่าวเลย เพียงให้ความรู้ทั่วๆไป ภายหลังคนเสพข่าวก็เอามาแชร์ ล้อเลียน และด่าทอกันว่า จิตแพทย์เข้าข้างผู้ต้องหาบ้าง โดยอ่านแค่พาดหัวข่าว ไม่ได้อ่านเนื้อข่าว นพ.กัมปนาท ยังระบุด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามูลเหตุจูงใจในการก่อคดี นอกเหนือจากความอยากได้ มีมูลเหตุอะไรอีกหรือไม่ ซึ่งยังไม่มีใครทราบ อย่าด่วนตัดสินไปก่อน
+++การเสียชีวิตของ รศ. วราพร สุรวดี ประธานมูลนิธิอินสาท-สอาง ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก หลังรักษาตัวในห้องผู้ป่วยวิกฤตมานานกว่า 1 สัปดาห์ จากอุบัติเหตุพลัดตกจากชั้น 2 ของบ้านพักในพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก เขตบางรัก มีการเปิดเผยถึงกำหนดการพิธีกรรมทางศาสนาดังนี้ วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม เวลา 16.00 น. รดน้ำศพที่วัดหัวลำโพง ศาลา 17 สวดพระอภิธรรม ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 26 – จันทร์ที่ 30 มกราคม 2560
CR:คลังภาพรัฐบาลไทย