การแถลงข้อมูลการเสียชีวิตของนายประเมิน ไกรรส ผู้อำนวยการเขตพระนคร โดยนพ.สุรวุฒิ ลีฬหะกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิรพยาบาล นพ.กุลยศ จงพิพัฒน์วณิชย์ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรคหัวใจและการสวนหัวใจ พร้อมด้วยนายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานครร่วมแถลงข่าว โดยนพ.สุรวุฒิ เปิดเผยว่า ได้เปิดเผยว่า นายประเมินได้หมดสติได้หมดสติระหว่างปฏิบัติหน้าที่ที่เขตพระนคร เมื่อเวลา 16.30 น. เมื่อวันที่ 25 มกราคม เบื้องต้นได้รับการดูแลจาก เจ้าหน้าที่เขตพระนครและหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลหัวเฉียวและได้นำส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล โดยคณะแพทย์วินิจฉัยแล้วว่านายประเมินมีภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งน่าจะเกิดจาก เส้นเลือดหัวใจอุดตัน คณะแพทย์จึงทำการสวนหัวใจ พบว่ามีเส้นเลือดหลักที่เลี้ยงหัวใจอุดตันและมีลิ่มเลือดเกิดขึ้น ได้ทำการนำลิ่มเลือดออกพร้อมขยายเส้นเลือดและใส่ขดลวดค้ำยัน เพื่อเปิดให้มีเลือดไหลไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจอีกครั้งหนึ่ง โดยใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจตลอดเวลาและเครื่องมือช่วยชีวิตอื่นๆ แต่ในที่สุดแล้วนายประเมินได้เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเวลา 7.10 น. ของวันนี้ ซึ่งปัจจุบันนายประเมินมีภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งเมื่อมีไขมันไปเกาะตามเส้นเลือดจึงอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เส้นเลือดหัวใจอุดตันจึงทำให้เกิดหัวใจวายได้
ส่วนการออกกำลังกายจะเป็นปัจจัยของการเสียชีวิตหรือไม่นั้น นายแพทย์กุลยศ กล่าวว่า การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ แต่ต้องเหมาะสมกับอายุและโรคประจำตัว ซึ่งกรณีของนายประเมินเกิดจากหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งน่าจะมาจากการทำงานหนักและพักผ่อนไม่เพียงพอ สำหรับประชาชนทั่วไปในการออกกำลังกาย หากเป็นโรคหัวใจ ก็ขอให้ออกกำลังกายในระดับกลาง ไม่ฝืนตัวเอง เมื่อรู้สึกอึดอัดหรือแน่นหน้าอก ควรหยุดออกกำลังกายทันที โดยการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพที่ดีก็ต้องมาคู่กับการรับประทานอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งการออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างถูกต้องตามช่วงอายุ ไม่ใช่การหักโหม เพื่อให้ร่างกายปรับตัว
ขณะที่ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจ กับครอบครัว ญาติพี่น้อง และผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้บริหารกรุงเทพมหานครจะดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี ที่สุดต่อไป สำหรับนายประเมิน นับว่า เป็นผู้ที่เสียสละและทุ่มเทในการทำงาน ซึ่งนายประเมินเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง ผู้อำนวยการเขตพระนคร โดยมีภารกิจในเรืี่องการดูแลประชาชน ที่เข้ามากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในบริเวณพื้นที่สนามหลวง และภารกิจที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร จากนี้ไปกรุงเทพมหานครคงไม่ได้มีการกำชับหน่วยงานในสังกัดในเรื่องของการออกกำลังกาย แต่จะกำชับหรือดูแลในเรื่องของสุขภาพมากกว่า ในเรื่องของการตรวจสุขภาพที่เหมาะสมของข้าราชการทุกระดับ โดยอาจจะมีการหมุนเวียนจัดบุคลากรเข้ามาตรวจสุขภาพ พร้อมทั้งจะมีการหารือกับวชิรพยาบาลและสำนักการแพทย์ กทม. เพื่อดำเนินการต่อไป