ในเวทีเสวนา อย่าให้คนโกงมีที่ยืนในการบินไทย ปตท. และประเทศไทย กรณีสินบนโรลส์-รอยซ์ โดยเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นขององค์กรด้านการต่อต้านการทุจริต นายบรรยง พงษ์พาณิช กรรมการยุทธศาสตร์องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสาะหาข้อเท็จจริง ที่ต้องใช้เวลานาน แต่มองว่า ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่แสดงให้เห็นว่าประเทศใหญ่ๆ เริ่มจริงจังเรื่องการทุจริต ส่วนในประเทศไทย กระบวนการต่อต้านการทุจริต ปัจจุบันมีการป้องกันที่ทำให้เกิดการทุจริตยากขึ้น อย่างไรก็ตาม การตั้งหน่วยงานและขยายหน่วยงานด้านการต่อต้าน ก็เป็นเพียงจุดป้องกันแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น โดยได้เสนอทางแก้ไขคือ ให้หน่วยงานเปิดเผยข้อมูลทุกขั้นตอน โดยไม่ต้องร้องขอ มีผู้เชี่ยวชาญติดตามตลอด เปิดโอกาสให้ หลายภาคส่วนทำหน้าที่ร่วมกัน และเปิดโอกาสให้ ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลการเปิดเผยทุกขั้นตอน พร้อมทั้งเสนอให้ใช้ มาตรา 44 เพื่อเพิ่มอำนาจคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ติดตามประสานกับหน่วยงานประเทศอื่นโดยตรง ไม่ต้องผ่านหน่วยงานใดๆ
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตกระบวนการหาข้อเท็จจริง ว่าอยากให้ ป.ป.ช. เป็นแกนนำหลักเพียงหน่วยงานเดียวที่สอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนหน่วยงานอื่น แม้กระทั่งบริษัทที่เกี่ยวข้องการติดสินบน ทำหน้าที่เพียงแค่ให้ความร่วมมือเรื่องข้อมูลเท่านั้น โดยไม่เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมการสอบสวนภายใน ส่วนการแก้ไขปัญหาหลังจากนี้ คือ เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วต้องประเมินและจำลองสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งออกแบบการป้องกัน โดยไม่ต้องรอให้กระบวนการสืบสวนตรวจสอบเสร็จสิ้น เพราะอาจจะช้าเกินไป
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการติดสินบน กลายเป็นอุตสาหกรรมที่เหมือนขายของให้รัฐ และกำลังขยายตัวอยู่ ในขณะนี้ ด้านนายเมธี ครองแก้ว อดีตคณะกรรมการป.ป.ช. กล่าวยอมรับว่า การติดสินบน เกิดขึ้นในหลายประเทศ การตรวจสอบในเรื่องนี้เชื่อว่า ป.ป.ช. ทำงานอย่างตรงไปตรงมาอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม