เร่งหาทนายความ-ล่ามช่วยรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาในญี่ปุ่น/ ศาลไต่สวนยึดทรัพย์อดีตเณรคำ

25 มกราคม 2560, 13:42น.


สรุปข่าวเที่ยง



+++นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่ปรากฎข่าวในสื่อท้องถิ่นในญี่ปุ่นว่าทางการญี่ปุ่นได้จับกุมคนไทย ที่เป็นข้าราชการระดับสูง เมื่อวันที่ 24 มกราคมว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ได้รับทราบข่าวดังกล่าว จากสื่อท้องถิ่นญี่ปุ่นแล้ว และอยู่ระหว่างการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ในชั้นนี้คนไทยดังกล่าวอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นโดยทางการญี่ปุ่นจะไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ถูกควบคุมตัว เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลของผู้ถูกควบคุมตัว



+++ ล่าสุด น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่ญี่ปุ่นทำการตรวจสอบและติดตามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว และให้ประสานกับสถานทูตไทยในญี่ปุ่น โดยตอนนี้เรื่องอยู่ในกระบวนการทางกฎหมายของญี่ปุ่น คงจะได้ทราบข้อเท็จจริงเมื่อท่านเดินทางกลับมา



จากการตรวจสอบ มีรองอธิบดีของกระทรวงพาณิชย์ คือ นายสุภัฒ สงวนดีกุล รองกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพียงคนเดียวที่ได้เดินทางไปญี่ปุ่นโดยเป็นการเดินทางไปอบรมเรื่องสิทธิบัตรกับรัฐบาลญี่ปุ่น และตามกำหนดการเดิม มีกำหนดที่จะเดินทางกลับในวันนี้ (25 ม.ค.) แต่ได้มีการแจ้งมายังกรมทรัพย์สินทางปัญญาว่าจะเลื่อนการเดินทางกลับโดยไม่มีกำหนด และไม่ต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปรับนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังได้มีการหารือกับปลัดกระทรวงพาณิชย์ เพื่อหาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และเตรียมการที่จะหาทางช่วยเหลือต่อไป



+++พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงความคืบหน้าแนวทางการทำงานของคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ว่า  อยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้งให้จบภายในยุคนี้เพื่อไม่ให้เป็นภาระของลูกหลาน และถ้าทุกคนมีจิตสำนึกของความรักชาติและอยากเห็นประเทศเดินไปข้างหน้าเหมือนประเทศอื่น ควรลดทิฐิและรับฟังความเห็นของผู้อื่น อย่างไรก็ตาม คงไม่ต้องวิงวอนใคร เพราะทุกฝ่ายต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ โดยต้องขอให้รายชื่อของคณะกรรมการเรียบร้อยก่อนในอีกไม่นานนี้ แต่ไม่อยากให้ไปสัมภาษณ์แต่ละฝ่าย จนมีการพูดกันไปมาและกลายเป็นการทะเลาะกันก่อนเข้าห้องพูดคุย อีกทั้งขณะนี้กระบวนการนี้ยังไม่เสร็จสิ้น จึงยังไม่สามารถตอบได้ และเชื่อว่าการพูดคุยกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดตามกรอบระยะเวลา 3 เดือน



++++นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การนำเสนอแนวทางสร้างความปรองดอง ว่า ได้รับการประสานจากคณะอนุกรรมาธิการสร้างความปรองดอง ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) จึงได้นัดสมาชิกพรรคมาพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ วันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.)  เพื่อรวบรวมความเห็นที่สมบูรณ์ที่สุด เพื่อจะสะท้อนจุดยืนของพรรคในระดับหนึ่ง นำเสนอไปยัง สปท. พร้อมเสนอว่า การทำงานเรื่องความปรองดองควรจะมีเจ้าภาพเดียว ที่ทำหน้าที่ประสานงานรวบรวมความเห็น เพื่อทำไปในทิศทางเดียวกัน หรือ เพื่อความเป็นเอกภาพ ไม่ต้องการให้ทำงานซ้ำซ้อนกัน



++++ศาลแพ่ง  ถนนรัชดาภิเษก นัดสืบพยาน  ในคดีนายวิรพล  สุขผล หรือ อดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ  เพื่อให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน  ตามความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดอื่นที่ที่เกี่ยวข้อง โดยวันนี้ เป็นการสืบพยาน ในฝ่ายผู้ร้องคือ พนักงาน อัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 3  ซึ่งพนักงานอัยการ มีการเบิกพยานที่เกี่ยวข้อง  ทั้งเจ้าหน้าที่ ปปง./กองปราบปราม รวมถึงผู้เสียหาย  ขึ้นเบิกความ ยืนยันพฤติการณ์ของอดีตพระวิรพล ว่ามีพฤติการณ์หลอกหลวงประชาชน เช่น  การจัดสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐานที่วัดป่าขันติธรรม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ  ด้วยหยกเขียวแท้จากอิตาลี มูลค่ากว่า 2, 000  ล้านบาท   โดยมีญาติโยม บริจาคทุนทรัพย์ร่วมก่อสร้างจำนวนมาก  แต่ในข้อเท็จจริงปรากฏว่า การสร้างดังกล่าวเป็นการสร้างด้วยผงเรซินผสมหินสีเขียว ไม่ได้มีการขออนุญาต และมูลค่าจริงก็ไม่เกิน 30 ล้านบาท ฯลฯ



+++ส่วนในวันพรุ่งนี้  ศาลได้นัดสืบพยานฝ่ายผู้ร้องอีกครั้ง  เวลา 09.00 น.   ส่วนในวันที่ 15 และ 16 กุมภาพันธ์  นี้  ได้นัดสืบพยานฝ่ายผู้คัดค้าน  ซึ่งเป็นทนายของเจ้าของทรัพย์รวมทั้ง ทนายของ อดีตพระวิรพล  รวม 8 คน  คดีนี้ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556  คณะกรรมการธุรกรรม คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน หรือ ปปง. มีมติให้ยึด หรืออายัดทรัพย์สิน ของอดีตพระวีรพล 31 รายการ มูลค่ากว่า  24 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ และที่ดินของเณรคำ  และคนที่เกี่ยวข้อง ตกเป็นของแผ่นดิน



+++นายอเล็กซานเดอร์ ลาฟเรนเทฟ ผู้แทนทางการรัสเซียเปิดเผยว่า ส่งมอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของซีเรียให้กลุ่มติดอาวุธซีเรียนำไปศึกษาแล้ว โดยร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผู้เชี่ยวชาญของรัสเซียร่างขึ้น เพื่อเร่งกระบวนการเจรจายุติความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม กลุ่มกบฏซีเรีย เปิดเผยกับสำนักข่าวต่างประเทศว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังวางอยู่บนโต๊ะ แต่กลุ่มยังไม่คิดที่จะนำมาศึกษา ทั้งปฏิเสธที่จะหารือเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญกับฝ่ายรัสเซียด้วย

ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ของสัปดาห์นี้ มีการเจรจาโดยตรงระหว่างกลุ่มกบฏซีเรียกับผู้แทนของทางการซีเรียที่เมืองหลวงของคาซัคสถาน แต่การเจรจาจบลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ ที่จะไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองเพื่อสิ้นสุดสงคราม แต่รัสเซีย อิหร่าน และตุรกีต่างให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนให้เกิดการหยุดยิงในซีเรีย ทั้งมีความเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญคือแนวทางสำคัญของการเจรจาเพื่อยุติการนองเลือดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 310,000 คน

ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ยังเกิดจากการผลักดันของรัสเซียและสหรัฐอเมริกา ในการเจรจาเมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ซึ่งก็เป็นการเจรจาที่ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน



+++ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐทวีตว่า จะส่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางไปนครชิคาโก หากไม่แก้ปัญหาการก่อความรุนแรงนองเลือดในขณะนี้ มีเหตุยิงกันมากถึง 228 ครั้งตั้งแต่ต้นปี และมีผู้เสียชีวิต 42 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 จากปีก่อน เขาจะส่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางเข้าไป อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า คำว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางหมายถึงหน่วยงานใด ก่อนหน้านี้ในพิธีสาบานตนเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐกล่าวหารัฐบาลกลางว่าปกป้องตนเองแต่ละเลยประชาชนทั่วไปที่ต้องทนทุกข์กับความยากจนและอาชญากรรม เหตุนองเลือดอเมริกันจะยุติลงที่นี่และเดี๋ยวนี้ 

ข่าวทั้งหมด

X