ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++ เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยลำหนึ่งของอิตาลีประสบอุบัติเหตุตกในพื้นที่ภูเขาสูงของจังหวัดลากวีลา ทางภาคกลางของประเทศ ขณะเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์นั้นมีคนบนเครื่อง 6 คน อยู่ระหว่างการลำเลียงนักเล่นสกีที่บาดเจ็บคนหนึ่งจากบริเวณลานบินใกล้รีสอร์ทเล่นสกีชื่อแคมโปฟีลีเซ เพื่อไปยังโรงพยาบาล แต่เฮลิคอปเตอร์ตกขณะบินอยู่ที่ระดับความสูง 600 เมตรล่าสุดมีรายงานคนบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด โฆษกตำรวจอิตาลีว่าจุดที่เครื่องบินตกเป็นจุดที่เข้าถึงยากลำบากแม้แต่ในช่วงเวลาปกติที่ไม่มีหิมะตก และการที่หิมะตกหนักเช่นนี้ยิ่งจะเข้าถึงยากกว่าเดิมอีกมาก
+++ส่วนความคืบหน้า การกู้ศพนักท่องเที่ยวที่ถูกหิมะถล่มทับ ทีมกู้ภัเก็บกู้ศพเพิ่มอีก 5 ศพจากซากอาคารโรงแรมแห่งหนึ่งในแคว้นอาบรุซโซ ทางภาคกลางของประเทศ หลังถูกหิมะถล่มทับเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ขณะนี้มีจำนวนศพที่เก็บกู้ศพได้แล้วทั้งหมด 14 ศพ สำหรับ 5 ศพล่าสุดนี้เป็นชาย 3 ศพและหญิง 2 ศพ ที่ผ่านมาทีมกู้ภัยสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิต 11 คนทั้งจากในและรอบๆโรงแรมซึ่งอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติภูเขาแกรนซัสโซ ผู้รอดชีวิตบางคนจมอยู่ใต้น้ำแข็งและซากอาคารนานถึง 2 วัน แต่มีคนสูญหายอีก 17 คนหลังหิมะถล่มทับโรงแรมนั้นซึ่งสูง 4 ชั้นเมื่อวันพุธที่แล้ว ไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวทั่วทั้งพื้นที่ภาคกลางของประเทศ
+++นายเดวิด นิวเบอร์เกอร์ ประธานศาลฏีกาของสหราชอาณาจักร อ่านคำตัดสินว่า ศาลลงมติด้วยคะแนน 8 ต่อ 3 เสียงว่า เป็นอำนาจของรัฐสภาที่จะตัดสินใจว่ารัฐบาลควรจะเริ่มต้นขั้นตอนการเจรจากับกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)เรื่องการขอถอนตัวออกจากอียู(เบร็กซิต)ตามมาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอน หรือไม่ คำพิพากษาดังกล่าวหมายความว่านายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์จะยังไม่สามารถเริ่มต้นการเจรจากับกลุ่มอียูจนกว่าสส.และสว.จะลงมติเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว แต่เดิมนางเมย์คาดว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรจะเริ่มต้นเจรจากับกลุ่มอียูภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ นอกจากนั้นศาลมีคำชี้ขาดด้วยว่า รัฐสภาสก็อตแลนด์ เวลส์และไอร์แลนด์เหนือไม่จำเป็นต้องลงมติในเรื่องนี้ด้วย
+++ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯวิจารณ์ญี่ปุ่นและประเทศจีนว่าใช้หลักปฏิบัติด้านการค้าที่เขาระบุว่าไม่เป็นธรรมกับบริษัทเอกชนของสหรัฐฯ นายทรัมป์ย้ำว่าญี่ปุ่นและประเทศจีนทำให้เกิดความยากลำบากในการที่บริษัทสหรัฐฯจะเข้าไปค้าขายสินค้าในประเทศของพวกเขา ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า เขาจะลดภาษีนิติบุคคลจากร้อยละ 35 ในปัจจุบันนี้ เหลือระหว่างร้อยละ 15-20 เพิ่มเติมว่าเขามีเป้าหมายที่จะขจัดกฏระเบียบหลายเรื่องที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของบริษัทเอกชนสหรัฐฯ และใช้มาตรการเก็บภาษีชายแดนสำหรับสินค้าที่ผลิตจากโรงงานที่ย้ายออกจากสหรัฐฯไปยังประเทศอื่นๆ
+++นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน อดีตซีอีโอบริษัทเอ็กซอน โมบิล ผ่านการรับรองด่านแรกอย่างหวุดหวิดจากคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ฯ ก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ โดยคณะกรรมาธิการฯลงมติด้วยคะแนน 11-10 เสียงเมื่อวานนี้ มีผลให้ชื่อของเขาจะถูกเสนอให้ที่ประชุมวุฒิสภาเต็มคณะลงมติอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ในการไต่สวนเพื่อรับรองบุคคลที่จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีของคณะกรรมาธิการฯเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว น่าสังเกตว่านายทิลเลอร์สันแสดงจุดยืนแตกต่างจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในหลายๆเรื่อง คือเขาประณามรัสเซียกรณีรุกรานยูเครน นอกจากนั้นเขาเชื่อว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทั่วโลกเป็นเรื่องจริงและสนับสนุนประโยชน์ของการร่วมมือเป็นพันธมิตรขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือและสนับสนุนข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกซึ่งนายทรัมป์เพิ่งจะลงนามในคำสั่งถอนตัวออกจากการเข้าร่วมในวันนี้
+++สื่อมวลชนสหรัฐฯอ้างเจ้าหน้าที่รายหนึ่งเปิดเผยว่ารัฐบาลของโอบามา ใช้ช่วงเวลาในชั่วโมงท้ายๆของการดำรงตำแหน่ง ขัดขืนเสียงต้าน อนุมัติปล่อยเงินแก่องค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์อย่างเงียบๆ 221 ล้านดอลลาร์ หลังจากก่อนหน้านี้ เคยถูกคัดค้านจากพรรค รีพับลิกัน นอกจากเงิน 221 ล้านดอลลาร์สำหรับปาเลสไตน์แล้ว รัฐบาลโอบามา จะเดินหน้าอนุมัติเงินอีก 6 ล้านดอลลาร์ในการใช้จ่ายด้านกิจการต่างประเทศ ในนั้นรวมถึง 4 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการต่างๆด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ(climate change) และ 1.25 ล้านดอลลาร์ สำหรับองค์กรต่างๆของสหประชาชาติ ความเคลื่อนไหวให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ปาเลสไตน์ดูเหมือนจะเรียกความเดือดดาลแก่สมาชิกสภาคองเกรสบางส่วน เช่นเดียวกับทำเนียบขาวของทรัมป์ เนื่องจาก ทรัมป์ เคยประกาศสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งต่ออิสราเอลและได้เชิญ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล มาเยือนวอชิงตันในเดือนหน้า
+++ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ ปิดที่ 53.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ ปิดที่ 55.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมน้ำมันและข้อมูลการส่งออก ระบุว่ากำลังผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย น่าะลดลงมาเหลือราวๆ 9.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมกราคม หลังจากที่เคยผลิตน้ำมันถึง 10.47 ล้านบาร์เรลในเดือนธันวาคม
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(24ม.ค.) ปิดบวกแรง โดยเอสแอนด์พี500และแนสแดคทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ นักลงทุนเริ่มมองในแง่บวกว่านโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีความชัดเจนขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 112.86 จุด (0.57 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,912.71 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 14.87 จุด (0.66 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,280.07 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 48.02 จุด (0.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,600.96 จุด
++++ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(24ม.ค.) ปรับลดเล็กน้อย จากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากปิดบวกมาต่อเนื่องใน 2 วันหลังสุด จนพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 สัปดาห์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,210.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++จีนแถลงยืนยัน มีอำนาจอธิปไตย เหนือเกาะพิพาทต่างๆ ในทะเลจีนใต้ ด้านโฆษกทำเนียบขาว ฌอน สไปเซอร์ แลถงว่า สหรัฐฯจะพิทักษ์ปกป้องผลประโยชน์ของเราที่นั่น ขณะที่ หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการแถลงข่าวย้ำว่า “สหรัฐฯไม่ได้เป็นฝ่ายหนึ่งในกรณีพิพาททะเลจีนใต้” ด้วยซ้ำ พร้อมเรียกร้องสหรัฐฯให้เคารพข้อเท็จจริงต่างๆ เหล่านี้ พูดและกระทำอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอันตรายต่อสันติภาพและเสถียรภาพของทะเลจีนใต้
+++ภาพยนตร์เรื่อง ‘La La Land’ ซึ่งเพิ่งกวาด 7 รางวัลจากเวทีลูกโลกทองคำ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 89 ถึง 14 สาขา เทียบเท่ากับสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมีมา สถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์สหรัฐอเมริกา (AMPAS) ประกาศรายชื่อภาพยนตร์และนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดส์ หรือ รางวัลออสการ์ ครั้งที่ 88 ประจำปี 2017 ซึ่งจะมีการประกาศรางวัลในวันที่ 26 ก.พ. 2017 ที่ดอลบี เธียเตอร์ ในเมืองฮอลลีวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย ภาพยนตร์ที่เข้าชิงรางวัลมากสาขาที่สุดในปีนี้คือ ภาพยนตร์เพลง-โรแมนติก ‘La La Land’ ตามความคาดหมาย โดยเข้าชิงทั้งหมดถึง 14 สาขา เทียบเท่าสถิติสูงสุดตลอดกาล ที่ภาพยนตร์ในตำนานอย่าง ‘All About Eve’ และ ‘Titanic’ เคยทำไว้ ลำดับต่อมาคือภาพยนตร์เกี่ยวกับการเติบโตของวัยรุ่นอย่าง ‘Moonlight’ และภาพยนตร์ไซ-ไฟ ระทึกขวัญ ‘Arrival’ ซึ่งเข้าชิงทั้งหมด 8 สาขา