กรณี จส.100 รับแจ้งจากหญิงสาวรายหนึ่งลืมสร้อยทองหลายเส้นมูลค่าหลายล้านบาท ใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางล้อลาก ไว้บนรถแท็กซี่สีชมพู ไม่ทราบทะเบียน ขึ้นมาจากใต้สะพานภูมิพล ถ.ยานนาวาตัดใหม่ – ลงสามย่าน เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 60 เวลา 13.00 น. โดยเปิดเผยว่า หลังจากลงจากรถที่สามย่าน ไม่ถึง 5 นาที ก็นึกขึ้นมาได้ว่าลืมกระเป๋าที่มีสร้อยทองอยู่ในนั้นไว้ที่ด้านล่าง หลังเบาะคนขับที่โดยสารมา จึงรีบนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างตามรถแท็กซี่คันดังกล่าว ระหว่างนั้นก็โทรฯ ติดต่อ จส.100 เพราะเห็นว่ามีหลายกรณีที่ลืมของไว้บนแท็กซี่แล้วสามารถได้คืน และทาง จส.100 น่าจะประสานกับรถแท็กซี่ได้ง่าย โดยทาง จส.100 ได้แนะนำให้มาแจ้งความ ไว้ สน.ปทุมวัน และทำเอกสารเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดในบริเวณที่ลงรถ เพื่อตรวจสอบทะเบียนรถ ซึ่งยอมรับว่าตกใจและไม่คิดว่าจะได้คืน จนเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามจนพบ และดีใจมากที่สามารถเจอในระยะเวลาไม่นาน ทั้งนี้ขอบคุณทาง จส. 100 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน. ปทุมวัน ที่ช่วยติดตามประสานงานจนเจอ รวมทั้งคนขับรถแท็กซี่ที่นำทรัพย์สินของตนมาคืน โดยได้มอบสินน้ำใจ 1,000บาท
ด้านนายสมัย ทูลธรรม แท็กซี่ที่นำสร้อยทองมาคืน เล่าว่า หลังจากส่งผู้โดยสารรายดังกล่าวเสร็จแล้ว แบตเตอรี่รถก็หมดจึงปิดไฟว่างและนำรถไปเปลี่ยนแบต ซึ่งในระหว่างนั้นก็ไม่ได้รับผู้โดยสารคนอื่นอีก และไม่ทราบว่าภายในรถของตนมีกระเป๋าที่บรรจุสร้อยทองหลายล้านบาทอยู่ในนั้น ซึ่งในระหว่างขับรถเข้าบ้าน ทางเจ้าของอู่รถได้โทรศัพท์มาบอกว่ามีผู้โดยสารลืมของไว้และนัดคืนของการที่ สน. ปทุมวัน จึงรีบเดินทางมา นายสมัย กล่าวต่อว่า ดีใจที่ได้นำของมาคืน โดยไม่ได้เจตนาว่าจะเอาของคนอื่นอยู่แล้ว ซึ่งยิ่งรู้ว่าเป็นของมีค่าก็ยิ่งอยากเอามาคืนเจ้าของ เพราะเห็นใจว่าเป็นของใครก็คง ไม่อยากให้หายไปและคงอยากได้คืน
ส่วน ร.ต.อ.สุทธนา หงษาคำ รองสารวัตรฝ่ายสืบสวนสน. ปทุมวัน ผู้ติดตามรถแท็กซี่จนเจอ กล่าวว่า หลังทำเรื่องแจ้งความแล้วก็ได้ติดตามหาทะเบียนรถแท็กซี่คันดังกล่าว จากกล้องวงจรปิด ซึ่งสำหรับผู้เสียหายรายนี้ถือว่าโชคดีที่ตลอดทางได้คุยไลน์กับเพื่อนทำให้ทราบสถานที่และเวลาตามจุดต่างๆที่นั่งรถผ่าน ทำให้เจ้าหน้าที่ นำเวลานั้นมาตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด จนพบรถแท็กซี่ที่จอดติดไฟแดง เมื่อซูมเข้าไปในภาพก็เห็นว่าผู้เสียหายได้นั่งอยู่ในรถแท็กซี่จึงได้ทำการดูทะเบียนรถยนต ์ทราบว่าเป็นรถแท็กซี่ทะเบียน ทว 4989 กทม. จึงได้ติดต่อกับเจ้าของอู่รถเพื่อให้แจ้ง คนขับแท็กซี่ก่อนจะนัด ทั้งคู่มาคืนของท ี่สน. ปทุมวัน จากการตรวจสอบ พบว่า ทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ครบไม่มีทรัพย์สินใดสูญหาย โดยได้ทำการส่งมอบและให้ผู้เสียหายลงบันทึกประจำวัน ว่าพบทรัพย์สินแล้ว ทั้งนี้ได้ฝากไปยังผู้โดยสารที่นั่งรถแท็กซี่ทุกคน ว่าให้ถ่ายภาพบัตรประจำตัวผู้ขับขี่และทะเบียนไว้ทุกครั้งซึ่งจะเป็นประโยชน์ในกรณีที่ลืมของหรือเกิดกรณีฉุกเฉินได้
ผสข. เกตุกนก ครองคุ้ม