หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เสนอให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการตรวจสอบกรณีสินบน เครื่องยนต์โรลสรอย ว่า คดีดังกล่าว รัฐบาลมีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว โดยให้กระทรวงคมนาคมตรวจสอบภายในองค์กรตัวเองคือการบินไทย ขณะที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็ทำหน้าที่ตรวจสอบ อยู่เช่นกัน และจะดำเนินการลงโทษตามความผิด ซึ่งขณะนี้เองรัฐบาลก็พยายามอุดช่องโหว่ ปรับแก้เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างให้รัดกุมเพื่อไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น ขณะเดียวกันโครงการต่างๆ ของรัฐบาลก็ต้องถูกดำเนินการตรวจสอบด้วยเช่นกัน
ส่วนการเพิ่มเงินเยียวยาให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การทำงานของรัฐบาลจะต้องช่วยเหลือตามมาตรการเดิมที่เคยมีอยู่แล้วตามมติครม. 3,000 บาท นอกเหนือจากนี้ต้องพิจารณาทั้งเรื่องการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติ ดังนั้นรัฐบาลต้องลงรายละเอียดในการช่วยเหลือ ต้องพิจารณาว่า สามารถทำได้หรือไม่ตามกฏหมาย หากทำไม่ได้ต้องนำเข้าที่ประชุมครม.หางบประมาณต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่าให้ กระทรวงการคลังไปดูเรื่องเงินทดลองราชการที่แต่ละจังหวัดเคยได้ 50 ล้านบาทซึ่งล่าสุดเพิ่มให้ 150 ล้านบาท รวมวงเงิน 200 ล้านบาท เพื่อเข้าไปช่วยเหลือขั้นพื้นฐานก่อนในการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำลด รวมทั้งยังมีมาตรการด้านภาษีนิติบุคลลธรรมดา ห้างร้าน และการยื่นแบบชำระภาษี กำลังคิดให้อยู่ทั้งหมด พร้อมทั้งมาตรการเงินมีเสนอ 2 มาตรการ คือ การพักชำระเงินต้นออกเบี้ยต่ำขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแบบสถาบันเป็นที่กำหนด ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องช่วยเหลือเฉพาะหน้า ยืนยันว่า รัฐบาลแก้ไขมาโดยตลอด ทั้งนี้ การประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ในวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) จะมีการหารือทุกมิติทั้งความเสียหาย ช่วยเหลือผู้ประกอบการ เยียวฟื้นฟู และเปิดช่องทางไกล่เกลี่ยหนี้
ผสข. ปิยะธิดา เพชรดี