สื่อสหรัฐฯระบุวิกฤติของซีเรียอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับปธน.ทรัมป์

23 มกราคม 2560, 20:36น.


ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สามารถหลบเลี่ยงงานนโยบายต่างประเทศครั้งแรกและถือเป็นงานใหญ่ เมื่อนายมาร์ค โทเนอร์ รักษาการโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯแถลงว่าเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำคาซัคสถานจะเข้าร่วมการพูดคุยสันติภาพซีเรียตามข้อเสนอของรัสเซีย การเจรจาจะมีขึ้นในกรุงอัสตานา เริ่มจากวันนี้ นับว่าช่วยลดแรงกดดันให้กับรัฐบาลของนายทรัมป์ได้พอสมควร



ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุบังเอิญหรือความตั้งใจก็ตาม ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเสนอให้มีการจัดการเจรจาครั้งนี้ 3 วันหลังการเข้ารับตำแหน่งของนายทรัมป์และเขาเพิ่งจะเชิญผู้แทนจากสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อร่วมประชุมในฐานะผู้สังเกตุการณ์ การที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายทรัมป์อยู่ในช่วงเริ่มต้นการบริหารประเทศและยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าที่ควร การแถลงของนายโทเนอร์ทำให้นายทรัมป์มีเวลาหายใจหายคอ ขณะที่นายปูตินดูเหมือนจะกำหนดหัวข้อประชุมในแบบที่มุ่งจะทำให้สหรัฐฯและนายทรัมป์มีสถานะเป็นผู้สังเกตุการณ์เท่านั้น ด้านรัฐบาลรัสเซียระบุว่ารัสเซียต้องการให้การเจรจาครั้งนี้ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับการหยุดยิงในซีเรีย แต่การลดบทบาทสหรัฐฯในการเจรจาครั้งนี้ นายปูตินจึงมีบทบาทนำในการกำหนดเงื่อนไขต่างๆของผลสรุปที่จะเกิดขึ้น เมื่อผู้นำรัสเซียเป็นนักต่อรองอำนาจรายใหญ่ในซีเรียและขณะนี้สหรัฐฯมีบทบาทเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์



ปัญหาใหญ่ของนายทรัมป์คือการหาวิธีการทำให้สหรัฐฯมีอำนาจต่อรองมากขึ้น เพื่อช่วยให้รักษาผลประโยชน์ของสหรัฐฯทั้งในซีเรียและภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่ผ่านมาทั้งนายทรัมป์และนายปูตินต้องการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)แต่นั่นอาจจะเป็นจุดยืนเดียวที่พวกเขาเห็นตรงกัน สำหรับพันธมิตรรายใหญ่ของรัสเซียในซีเรียคืออิหร่าน พวกเขาสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดของซีเรีย ซึ่งอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯระบุว่ามือเปื้อนเลือดและนายทรัมป์เองก็บอกว่าเลวร้ายเช่นกัน การแยกอิหร่านและรัสเซียออกจากกันในเรื่องซีเรียอาจจะเป็นงานหนักที่สุดสำหรับนายทรัมป์/18.06 น.

ข่าวทั้งหมด

X