ประชาชนจากจ.สุราษฎร์ธานี เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ รัชกาลที่ 9 ส่วนการปรับพื้นที่เพื่อรองรับประชาชนได้มากขึ้น

บรรยากาศในช่วงเย็น บริเวณท้องสนามหลวงและโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ในวันนี้อากาศค่อนข้างเย็นสบาย แดดไม่ร้อนจนเกินไป โดยยังคงมีประชาชนทยอยกันเดินทางเข้ามาต่อแถว บริเวณทิศเหนือของท้องสนามหลวง เพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยสำนักพระราชวัง ได้สรุปยอดรวม ประชาชนที่เดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ รัชกาลที่ 9 เมื่อวานนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 38,673 คน

ขณะที่หลังจากเมื่อวาน ได้มีการย้ายเต็นท์ประกอบอาหารของหน่วยงานจิตอาสาออกจากภายในท้องสนาม และนำไปตั้งไว้ยังบริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผมแทน เพื่อเตรียมพื้นที่รองรับประชาชนในท้องสนามหลวงให้มากขึ้น โดยภายในจุดพักคอยยังคงมีเจ้าหน้าที่ คอยบริการแจกอาหารและน้ำดื่มให้กับประชาชนที่มารอเข้าแถว รวมถึงยังคงมีเต็นท์ของเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลต่างๆ ที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพให้ประชาชนด้วย

นางเยาวรี ศรชนะ อายุ 56 ปี ในวันนี้เดินทางมากับครอบครัวจาก จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ 6.00 น. ด้วยความตั้งใจว่าจะมีกราบพระบรมศพในวันนี้ให้ได้ แม้ว่าที่บ้านฝนจะตกก็ตาม แต่ก็ขับรถมาเรื่อยๆ ซึ่งแม้ครั้งนี้จะเดินทางมากราบพระบรมศพเป็นครั้งที่ 2 แล้วก็ตามแต่ยังคงตื้นตันใจ และตื่นเต้นเสมอ รวมทั้งในวันนี้ได้พาหลานชายและหลานสาวมาด้วย พร้อมแนะนำสิ่งต่างๆในการเข้ากราบพระบรมศพให้ได้รู้ เพราะหลานทั้งสองยังอายุน้อย อาจจะยังไม่เข้าใจถึงธรรมเนียมต่างๆ แต่ก็ได้เล่าให้ฟัง ให้ได้รู้ และเกิดความภาคภูมิใจว่า ได้เกิดมาในรัชกาลที่ 9 ได้มีโอกาสเข้ากราบพระบรมศพ ซึ่งหากเทียบกับสมัยก่อน คงจะไม่ได้มีโอกาสเช่นนี้ แต่ตอนนี้มีเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย ถือเป็นการเปิดทางให้เด็กรุ่นใหม่ได้รับรู้สิ่งต่างๆ ที่พระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนได้อย่างสะดวก รวมถึงได้สอนหลานทั้งสองคนเสมอให้อดออม เก็บเงินหยอดกระปุก เพื่อปลูกฝังเรื่องความพอเพียงตั่งแต่เด็ก รวมทั้งสอนให้ยึดถือพระองค์เป็นแบบอย่างให้การทำสิ่งต่างๆ ว่าจะเหนื่อยขนาดไหน ต้องมีความอดทนอย่างเช่นพระองค์

สำหรับ นวันนี้ประชาชนที่เข้ากราบพระบรมศพจะได้รับข้าวเปลือกพอเพียงเป็นของที่ระลึก รวมทั้งวารสารพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์สีและขาวดำ ประกอบพระราชประวัติด้วย