ทรัมป์สมานรอยร้าวซีไอเอพร้อมตำหนิสื่อ/ญี่ปุ่นสกัดเครื่องบินรบจีน รัสเซีย และไต้หวัน

หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 เขาเดินทางไปที่สำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐ หรือ ซีไอเอ ตั้งอยู่ในเมืองแลงลีย์ รัฐเวอร์จิเนีย เป็นหน่วยงานแห่งแรก เพื่อแสดงท่าทีเป็นมิตรหลังจากที่ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเขากล่าวโจมตีการทำงานของหน่วยงานทางการหลายครั้ง รวมถึงการที่ซีไอเอรายงานว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งเพื่อช่วยให้นายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยว่า เขาสนับสนุนการทำงานซีไอเอ อย่างไรก็ตามคำกล่าวส่วนใหญ่ของการเดินทางมาที่ซีไอเอกลับเป็นการตำหนิรายงานข่าวของสื่อเกี่ยวกับภาพและจำนวนประชาชนที่มาร่วมในพิธีสาบานตนที่เขาเห็นว่ามีจำนวนมากกว่า 1 ล้าน 5 แสนคน แต่สื่อรายงานว่ามีจำนวน 2 แสน 5 หมื่นคน

เช่นเดียวกับนาย รอน สเปนเซอร์ โฆษกทำเนียบขาว ที่เปิดตัวในการทำงานด้วยการกล่าวตำหนิสื่อเกี่ยวกับการรายงานข่าวเรื่องพิธีสาบานตนจากนั้นก็ออกไปจากห้องแถลงข่าวโดยไม่ตอบคำถาม

ในวันเดียวกัน สตรีในอเมริกันและอีกหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก ร่วมการชุมนุมเพื่อร่วมแสดงพลังต่อต้านนาย ทรัมป์ ที่มักกล่าวถ้อยคำดูหมิ่นผู้หญิง โดยผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมส่วนใหญ่จะสวมหมวกไหมพรมสีชมพูเป็นสัญลักษณ์ นอกจากนี้ในการชุมนุมเวทีเดียวกัน ยังมีกลุ่มผู้ที่ไม่พอใจนโยบายของนายทรัมป์ที่เป็นการแสดงความเกลียดชังต่อผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นผู้อพยพชาวเม็กซิกัน, ชาวมุสลิม, คนพิการ, และนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม

ผลการสำรวจความเห็นของเอบีซีนิวส์/วอชิงตันโพสต์ พบว่า เขามีคะแนนความนิยมต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา

ในวันที่ 24 มกราคมนี้ ศาลสูงสหราชอาณาจักรจะมีคำพิพากษาว่านายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ สามารถใช้อำนาจฝ่ายบริหาร เปิดการเจรจาออกจากสหภาพยุโรป หรืออียู อย่างเป็นทางการ หรือจะต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน แต่เป็นที่คาดกันว่าคณะผู้พิพากษา 11 คนจะเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ที่ให้รัฐสภาออกกฎหมายออกมารองรับการทำงานให้เสร็จสิ้นก่อน

กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ส่งเครื่องบินรบขึ้นสกัดเครื่องบินที่เข้าใกล้น่านฟ้ามากเป็นประวัติการณ์ที่ 883 ครั้งในช่วง 9 เดือนสิ้นสุดเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยร้อยละ 73 หรือ 644 ครั้ง เป็นเครื่องบินจีน เป็นเครื่องบินรัสเซีย 231 ครั้ง และเครื่องบินไต้หวัน 6 ครั้ง

ที่ปากีสถานเกิดเหตุระเบิดในตลาดผักทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คนบาดเจ็บอีกราว 40 ราย ใน โดยพื้นที่เกิดอยู่ในแคว้นชนเผ่าทางตะวันตกเฉียงเหนือห่างไกล ต่อมากลุ่มตอลิบานในปากีสถานและกลุ่มติดอาวุธนิกายย่อย ลัชการ์-อี-จังวี ร่วมกันอ้างว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุร้ายครั้งนี้

กระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อท่าทีของมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ในการประชุมองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ โอไอซี  ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  ว่าเป็นการประชุมที่มีวัตถุประสงค์แอบแฝงทางการเมือง ไม่มีความเคารพต่อนโยบายของรัฐบาลเมียนมาตามที่นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ผู้นำมาเลเซีย เรียกร้องให้เมียนมาเร่งยุติเหตุรุนแรงในรัฐยะไข่

ด้าน นายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีการต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ประเทศอดีตเจ้าอาณานิคมของเมียนมา เดินทางเยือนกรุงเนปิดอว์และเมืองย่างกุ้ง อย่างเป็นทางการ โดยเข้าพบหารือกับนางออง ซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีการต่างประเทศของเมียนมาด้วย โดยนายจอห์นสันแสดงความคิดเห็นว่ากระบวนการปฏิรูปสู่ประชาธิปไตยของเมียนมา "ยังไม่สมบูรณ์" และสหราชอาณาจักรพร้อมให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสม รวมถึงแสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ของชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ด้วย

นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูลแห่งออสเตรเลีย เดินทางลงพื้นที่ซึ่งเกิดเหตุคนร้ายขับรถยนต์พุ่งชนคนในย่านการค้ากลางเมืองเมลเบิร์นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 5 คน รายล่าสุดคือทารกวัย 3 เดือนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ทารกรายนี้อยู่ในรถเข็นที่ล้มเอียงอยู่บนฟุตบาทหลังถูกพุ่งชน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 37 คน โดย 4 คนอาการสาหัส นายเทิร์นบูลกล่าวว่า ชาวออสเตรเลียทั้งประเทศเศร้าเสียใจต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นและชื่นชมน้ำใจของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเข้าช่วยเหลือคนเจ็บอย่างเต็มที่ ส่วนตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาคนร้ายวัย 26 ปีในเร็วๆ นี้

เจ้าหน้าที่อินเดียเร่งสอบสวนหาสาเหตุรถไฟสายด่วน จักดัล ปุระ-ภูพเนศวาระ ประสบเหตุตกราง 8 ตู้ ในเขต วิเซียนาการัม พื้นที่ห่างไกลของรัฐอานธรประเทศ ทางภาคใต้ของอินเดีย กลางดึกวันเสาร์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 36 คน บาดเจ็บอีกราว 50 คน และคาดว่าอาจเป็นการกระทำของกลุ่มกบฏนิยมลัทธิเหมา

เมืองฟารินโดลา ในอิตาลี ยื่นฟ้องนิตยสารชาร์ลีเอ็บโด ของฝรั่งเศส ที่ตีพิมพ์ภาพการ์ตูนล้อผู้เสียชีวิตและผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์หิมะถล่มโรงแรมริโกเปียโน เมืองฟารินโดลา เมื่อวันพุธของสัปดาห์ก่อน ทำให้ประชาชนและสื่อในอิตาลีไม่พอใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่สื่อฉบับเดียวกันนี้ เคยล้อเลียนผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำลายเมืองอามาตริเช ในอิตาลีเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และนายกเทศมนตรีอามาตริเช ก็ยื่นฟ้องชาร์ลีเอ็บโดฐานหมิ่นประมาทเช่นกัน

ประธานาธิบดีมิเชล บาเชเลต ของชิลี ประกาศภาวะฉุกเฉิน เนื่องจากเกิดไฟป่าครั้งใหญ่หลายสิบจุด ทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 50,000 ไร่ ทั้งยังมีลมพัดแรง และคลื่นความร้อน มีบ้าน 40 หลังได้รับความเสียหาย ขณะที่หัวหน้าองค์การป่าไม้ แห่งชิลี หรือ โคนาฟ เผยว่า ไฟป่าครั้งนี้มีสาเหตุจากมนุษย์

....