บรรยากาศบริเวณท้องสนามหลวงและโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นวันแรกหลังพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร 100วัน ที่เปิดให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ภายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ยังมีประชาชนเดินทางมาถึงอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันวันนี้เป็นวันแรกที่ย้ายครัวประกอบอาหารออกไปด้านนอกพื้นที่ ท้องสนามหลวงฝั่งทิศเหนือ โดยด้านในท้องสนามหลวงจะเหลือเฉพาะผู้ให้บริการ และผู้ที่เข้ามากราบสักการะพระบรมศพเท่านั้น ซึ่งกลุ่มกระทรวงแรกที่รับผิดชอบดูแลประชาชนแต่ 22 ม.ค.- สิ้นเดือน ก.พ. จะมี 4 หน่วยงาน คือ กระทรวงพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการกองทัพไทย โดย 10 วันแรก กระทรวงพลังงานจะเป็นเจ้าภาพหลักในการรับผิดชอบ ซึ่งได้นำอาหารมาดูแลประชาชน 50,000 ชุด น้ำ 70,000 ขวด และจัดเจ้าหน้าที่มาอีก 150 คน ทั้งนี้ ยังมีจิตอาสาที่ประสงค์จะประกอบเลี้ยงอาหารต่ออีก ซึ่งได้จัดจุดบริการประกอบอาหารไว้ที่พระแม่ธรณีบีบมวยผม โดนจะสามารถประกอบาหารเพิ่มเติมให้กับประชาชนได้อีกวันละ 2-3 หมื่นชุด ส่วนเมนูอาหารจะเน้นเป็นเมนูทานง่าย และให้ความสำคัญเรื่องอาหารสดใหม่ ไม่บูดเสีย แต่ยังมีความเป็นห่วงเรื่องของการขนส่งอาหาร ที่อาจจะเจอปัญหารถติดระหว่างทางอาจทำให้เข้ามาในพื้นที่ล่าช้า ก็จะนำอาหารของจิตอาสามาบริการร่วมด้วย ซึ่งได้แบ่งโซนรับผิดชอบการบริหารอาหารคือ ของ 4 หน่วยงานจะดูแลเต็นท์ ก-ฉ รวม 6 เต็นท์ ส่วนของจิตอาสาจะดูแลเต็นท์ ช-ซ

ขณะที่ ความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศ ทีมช่างก่อสร้างจากกรมศิลปากร ได้นำรถแบ็คโฮมาขุดหลุมจำนวน 4 หลุม ล้อมรอบบริเวณจุดตรงกลางของพระเมรุมาศ เพื่อเป็นฐานราก โดยขุดลงไปมีความลึกประมาณ 50 เซนติเมตรจากระดับพื้นที่ที่ได้ปรับแล้ว หลังจากนี้ถ้าขุดเสร็จแล้วก็จะเริ่มเทคอนกรีตเพื่อรองรับเสาเหล็กที่จะลงต่อไป และมีทีมช่างอีกส่วนหนึ่งที่รับผิดชอบการก่อสร้างพระที่นั่งทรงธรรม ได้นำรถแบ็คโฮ รถบด เข้ามาปรับพื้นที่บริเวณสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ตรงข้ามกับตึกแดงของวัดมหาธาตุ พร้อมนำไม้มาตีกั้นพื้นที่ขอบเขตการก่อสร้าง
...
ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี