ศาลปกครองกลาง นัดไต่สวนคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 4 คนกรณีขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ 1351/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากเหตุขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการตามอำนาจหน้าที่จนทำให้กระทรวงการคลังได้รับความเสียหาย คดีดังกล่าวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2559 และศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณาวินิจฉัยพร้อมกับมีคำสั่งตั้งองค์คณะพิเศษที่มีอธิบดีศาลปกครองกลางทำหน้าที่หัวหน้าองค์คณะและมีตุลาการประกอบเป็นองค์คณะ เพิ่มจากปกติที่มี 4 คน เป็น 7 คน เป็นองค์คณะพิจารณาคดี ซึ่งการเรียกไต่สวนในวันที่ 26 ม.ค.นี้ เพื่อที่ศาลจะนำข้อมูลจากคู่กรณีไปพิจารณาว่าจะกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาคือระงับคำสั่งที่1351/2559 ที่ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนมูลค่า 35,717 ล้านบาท ดังกล่าวไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตามที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นขอหรือไม่
ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองกลางได้รับคำฟ้องของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ ที่ขอให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ที่ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐจำนวน 1.7พันล้านบาท และ2.3 พันล้านตามลำดับ ไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้วและได้ตั้งองค์คณะพิเศษในการพิจารณาคดีพร้อมเรียกไต่สวนเพื่อพิจารณาว่าจะมีคำสั่งกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาคือระงับคำสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไว้ก่อนตามที่นายบุญทรง และนายภูมิ ร้องขอหรือไม่ไป เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2559 แต่จนขณะนี้ศาลยังไม่มีคำสั่งใดๆ ออกมา
แฟ้มภาพ