การปฏิบัติการตรวจค้นเอกสารผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำคณะพนักงานสอบสวน ชุดปฏิบัติการพิเศษจู่โจม และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม นำหมายค้นศาลจังหวัดมีนบุรี เข้าตรวจค้น บริษัทเจ เอ็มดับบลิว มอเตอร์ จำกัด ในเขตประกอบการค้าเสรีนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เพื่อตรวจหาเอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมาย ในเรื่องของการนำเข้ารถหรู มือสอง และจำหน่ายอะไหล่รถ ขณะที่เข้าตรวจค้นพบพนักงานที่ทำหน้าที่เฝ้าบริษัท เพียงคนเดียว
นายพงษธร อินอำนวย พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ สำนักคดีอาญา 1 ดีเอสไอ เปิดเผยว่า บริษัทดังกล่าวมีพฤติการณ์ในการสำแดงเท็จกับกรมสรรพสามิต มีการยื่นเอกสารกำกับชิ้นส่วนรถยนต์ ว่าบริษัทนี้เป็นอู่สำหรับประกอบรถยนต์ แต่ตรวจสอบพบว่าเป็นการนำเข้ารถยนต์เก่าใช้แล้วมาทั้งคัน ซึ่งถือว่าผิดจุดประสงค์ที่สำแดง จากการตรวจค้นพบรถยนต์โรลส์รอยส์ 1 คันและรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮาร์เล่ย์เดวิดสัน 8คัน ซึ่งเป็นรถของกลางที่กรมศุลกากรอายัดไว้แล้ว ส่วนเอกสารภายในบริษัทขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีความผิดหรือไม่
นอกจากนี้ยังพบว่ามีบริษัทในลักษณะเดียวกันไม่ต่ำกว่า 5 บริษัท ที่นำใบอนุญาตขนย้ายรถยนต์ของบริษัทนี้ไปใช้ โดยบริษัทนี้ถือเป็นบริษัทรายใหญ่ที่ถูกนำใบอนุญาตขนย้ายไปใช้มากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งดีเอสไอ จะต้องตรวจสอบว่านำไปใช้อย่างถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้บริษัทดังกล่าวยังมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีรถหรูของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่มีการนำเอกสารใบอนุญาตขนย้ายของบริษัทนี้ไปใช้ และคดีไฟไหม้รถหรูที่อำเภอกลางดง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อปี 2556 อีกด้วย
นายพงษธร ระบุว่า วันนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา หรือยึดอายัดทรัพย์สินใดๆ เป็นเพียงแค่เข้ามาตรวจสอบเพียงเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2559 ดีเอสไอ ได้มีการตรวจยึดรถหรู 30 คัน และได้มีการตรวจสอบขยายผลว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้ ทั้งนี้บริษัทนี้ยังสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ โดยไม่ต้องปิดบริษัทเพื่อตรวจสอบ ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ก็ได้มีการแบ่งทีมตรวจค้นไปตรวจบ้านบ้านเลขที่ 186/392 ซอยรามคำแหง 190/1 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี ของนายมานะ สมบูรณ์ทรัพย์ เจ้าของและกรรมการผู้จัดการ บริษัทดังกล่าว พบว่านายมานะอยู่ภายในบ้านจึงได้ตรวจยึดเอกสารบางส่วนไปตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข