+++นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 3-28 เม.ย. กระทรวงการคลัง มอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ ครั้งที่ 2 หรือรอบเก็บตก เลื่อนเร็วขึ้นจากเดิมในเดือนก.ย. คาดว่า การเปิดลงทะเบียนครั้งนี้ จะมีผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียนมากกว่า 10 ล้านคน
+++เบื้องต้นจากข้อมูลผู้มีรายได้น้อยของไทยมีอยู่ประมาณ 14-15 ล้านคน โดยการลงทะเบียนรอบแรกมีมาลงทะเบียน 8 ล้านคน เพราะบางส่วนไม่รู้เรื่องการลงทะเบียน บางส่วนรู้แต่ไม่ยอมมาลง เพราะคิดว่าไม่ได้อะไร แต่เมื่อรัฐบาลให้เงินสนับสนุนคนละ 1,500 บาท และ 3,000 บาท ทำให้ผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนต้องการมาลงเป็นจำนวนมาก เมื่อการลงทะเบียนรอบใหม่เสร็จสิ้นลง จะมีมาตรการแจกเงินช่วยเหลือหรือไม่ขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบาย และจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือกำหนดแนวทางการลงทะเบียนไม่ให้เกิดปัญหาและรวดเร็วมีการปรับแบบสอบถามเพื่อให้ได้ข้อมูลมากขึ้น
+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน เอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้น 4.00 ปิดที่ 2,271.89 จุด จากแรงหนุนจากของภาคการเงิน หลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ระบุว่ามีความสมเหตุสมผลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดาวโจนส์ ลดลง 22.05 จุด ปิดที่ 19,804.72 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 16.93 จุด ปิดที่ 5,555.65 จุด
+++ส่วนราคาทองคำ ขยับลงเล็กน้อย หลังดอลลาร์ฟื้นตัวจากดิ่งลงหนักเมื่อวันอังคาร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 80 เซนต์ ปิดที่ 1,212.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง เพื่อทำงานในเชิงรุกในการดูแลราคาสินค้าไม่ให้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น จนอาจมีผลต่อต้นทุนราคาสินค้า ทั้งด้านการผลิต และการขนส่งเพิ่มขึ้น จนทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาสินค้า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะปัดฝุ่นห้องปฏิบัติการติดตามราคาสินค้า (วอร์รูม) ที่จะรายงานสถานการณ์เข้ามาทุกวันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะต้นทุนรายการสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ถ้าสินค้าอะไรจะขอปรับขึ้น ก็ต้องแจ้งล่วงหน้า ถ้าไม่มีเหตุผลสมควร จะไม่ให้ปรับขึ้น หรือหากไม่ขออนุญาตก่อน ก็จะโดนหนักแน่ รวมถึงต้องใช้มาตรการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดกับผู้ประกอบการที่เอาเปรียบประชาชนด้วย
+++เรื่องการสร้างความปรองดอง นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง(ป.ย.ป.)จะเข้าพบนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ( สนช.) ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหารือเรื่องสัดส่วนรายชื่อฝ่ายรัฐสภา นอกจากประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และประธานสนช.จะเป็นกรรมการโดยตำแหน่งแล้วจะหารือเรื่องนำรายชื่อรองประธาน สปท. และรองประธาน สนช.อีกฝ่ายละ 1 คน เข้าไปอยู่ในคณะกรรมการ ป.ย.ป.แต่ละชุดด้วย น่าจะได้ข้อสรุป ขณะนี้ไม่น่าจะมีสัดส่วนจากฝ่ายการเมืองเข้าไปร่วมเป็นคณะกรรมการ ป.ย.ป.อย่างเป็นทางการ แต่จะมีการเชิญฝ่ายการเมืองเข้ามาให้ความเห็นในประเด็นสำคัญ มากกว่าจะมามีตำแหน่ง
+++เรื่องของบริษัท โรลส์-รอยซ์ ผู้ผลิตยานยนต์และอากาศยานจากอังกฤษ บรรลุผลเจรจายอมความกับสำนักงานสืบสวนการฉ้อฉลรุนแรงของสหราชอาณาจักร (เอสเอฟโอ) ในคดีการขายเครื่องยนต์ไม่โปร่งใส ซึ่งนำไปสู่การติดสินบนใหมใน 7 ประเทศ เช่น ไทย จีน อินเดีย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ด้วยการจ่ายค่ายอมความรวม 671 ล้านปอนด์ (ราว 2.8 หมื่นล้านบาท) ให้ซื้อเครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์ รวมถึงประเทศไทยในระหว่างปี 2534-2548
+++นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทการบินไทย ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)บริษัทการบินไทย พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอดีตฝ่ายบริหารและอดีตบอร์ดที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดซื้อจัดหาเครื่องยนต์เครื่องบิน กรณีบริษัท โรลส์-รอยซ์ ผู้ผลิตเครื่องยนต์ใช้สำหรับเครื่องบิน สหราชอาณาจักร ยอมรับต่อสำนักงานปราบปรามการ ทุจริต (Serious Fraud Office : SFO) ว่ามีการจ่ายสินบนให้กับหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยระหว่างปี 2534-2548 การบินไทยจะเร่งรวบรวมและสืบหาข้อเท็จจริง เบื้องต้นจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน และยืดเวลาตรวจสอบได้เป็น 60 วัน ตามกฎหมาย
+++คดีวัดพระธรรมกาย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า การเข้าค้นวัดพระธรรมกายเพื่อเข้าจับกุมพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาส ต้องรอความชัดเจนจาก พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่จะเป็น ผู้ประเมินสถานการณ์และตัดสินใจ การเข้ายึดอาคารที่เป็นของกลางตามฐานความผิดต่างๆ เช่น อาคารขนาดใหญ่ เช่น ธรรมกายเจดีย์ หากครบกำหนด 30 วัน นับแต่ปิดประกาศ ซึ่งตรงกับวันที่ 27 ม.ค. หากไม่มีการดำเนินการใดๆ จากทางวัด ผวจ.ปทุมธานี จะต้องเข้ายึดหรือค้น หรือห้ามใช้ สถานที่ สิ่งปลูกสร้างที่ผิดกฎหมายต่อไป
+++รองผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินคดีทั้งหมดอย่างรอบคอบ และจะทยอยออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม จากการตรวจสอบยังพบว่าวัดพระธรรมกายได้บุกรุกพื้นที่ป่า ชายเลนใน จ.กระบี่ จำนวน 80 ไร่ เพื่อทำสถานปฏิบัติธรรม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เตรียมจะเข้ายึดพื้นที่คืนให้รัฐเร็วๆ นี้ ปัจจุบัน มีการร้องทุกข์ดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 308 คดี
+++พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ดูแลงานจราจร กล่าวว่า บช.น. มีนโยบายให้ตำรวจจราจรทั้ง 88 สน. และ บก.จร. ดำเนินการจับผู้กระทำผิดและฝ่าฝืนกฎหมายจราจร โดยใช้กล้องถ่ายรูป รวมทั้งได้มีนโยบายให้ลดการตั้งด่านกวดขันวินัยการจราจรวันเว้นวัน และในเส้นทางเดียวกันห้ามตั้งด่านซ้อนกัน เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร ที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชน ซึ่งจะดำเนินการพร้อมกันทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 1 ก.พ. 2560 สั่งการให้ทุก สน. เตรียมความพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์ถ่ายภาพ โดยตำรวจสามารถใช้กล้องถ่ายรูปที่มีอยู่ดำเนินการได้โดยไม่ต้องใช้กล้องของรัฐ พร้อมทั้งให้ไปสำรวจจุดในการฝ่าฝืนกฎหมายจราจรเป็นประจำ ซึ่งหากพบเห็นสามารถดำเนินการได้ทันที ระหว่างนี้ได้กำชับให้ทำการประชาสัมพันธ์ถึงแนวทางให้แก่ประชาชนทราบ เพื่อป้องกันการเกิดความเข้าใจผิด
+++พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นจะตรวจจับในข้อหาที่เป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า และพบว่าการกระทำผิดมีความชัดเจนในข้อหา เช่น ขับรถย้อนศร ขับรถบนทางเท้า ไม่สวมหมวกกันน็อก แซงรถในที่คับขัน ปาดเบียดคอสะพาน และข้อหาที่ส่งผลกระทบต่อการจราจร ไม่ว่าจะเป็นจอดรถในที่ห้าม จอดซ้อนคัน เป็นต้น ทั้งนี้เมื่อได้หลักฐานการกระทำความผิดมาแล้ว สน.จะออกใบสั่งและส่งใบสั่งให้ผู้กระทำความผิดทางไปรษณีย์ เพื่อให้มาชำระค่าปรับ สำหรับการตรวจจับ ตำรวจจะต้องอยู่ในจุดสามารถมองเห็นการกระทำความผิดชัดเจน การถ่ายรูปไม่ได้เน้นถ่ายที่หน้าผู้ทำผิด แต่เน้นถ่ายให้เห็นทะเบียนรถที่ชัดเจนสามารถนำไปออกใบสั่งได้
แฟ้มภาพ