ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดวันนี้ (18 ม.ค.) ที่ระดับ 1,560.83 จุด ลดลง 6.01 จุด หรือร้อยละ 0.38 มูลค่าการซื้อขาย 48,884.31 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบ ๆ คล้ายกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย รอดูนายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐแล้วจะยังสามารถเดินหน้าทำนโยบายตามที่ได้หาเสียงไว้ได้หรือไม่ ส่วนการที่สหราชอาณาจักรจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) นั้น ยังต้องใช้เวลา ซึ่งระยะสั้นคงจะไม่มีผลต่อตลาดมากนัก
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบันซื้อสุทธิ 1,106.14 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 56.78 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 3,175.25 ล้านบาท และนักลงทุนไทยในประเทศซื้อสุทธิ 2,125.89 ล้านบาท
ส่วนหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากเคลื่อนไหวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนได้เข้าช้อนซื้อหุ้น หลังจากที่ราคาหุ้นได้ร่วงลงอย่างหนักในช่วง 2 วันก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังได้แรงหนุนจากการที่เงินเยนเริ่มอ่อนค่าลง ปิดเพิ่มขึ้น 80.84 จุด ที่ 18,894.37 จุด
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าช่วยดันหุ้นบริษัทที่มีการลงทุนในตลาดยุโรปให้ปรับตัวขึ้น และเงินหยวนที่แข็งค่าช่วยหนุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับจีนให้ปรับตัวขึ้นเช่นกัน ปิดเพิ่มขึ้น 257.29 จุด ที่ 23,098.26 จุด ภาวะการซื้อขายส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเม็ดเงิน 4.1 แสนล้านหยวน (6 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาด ผ่านการดำเนินงานทางตลาดเงิน (Open Market Operations) หรือ OMO ในวันนี้ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2547 เพื่อรองรับความต้องการเงินสดก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนในสัปดาห์หน้า