ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกาย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันนี้ จะเดินทางประชุมร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กับวัดพระธรรมกาย เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินคดีบังคับใช้กฎหมาย
สำหรับการเข้าค้น หรือเข้าจับกุมพระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย และบุคคลอื่นตามหมายจับที่เชื่อว่ายังอยู่ภายในวัดนั้น ต้องรอความชัดเจนจากนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์และตัดสินใจ
ส่วนการเข้ายึดอาคารที่เป็นของกลางตามฐานความผิดต่างๆ นั้น ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่ภายในวัด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยึดได้เพียงรั้วรอบวัดเท่านั้น ส่วนอาคารขนาดใหญ่ ยังไม่สามารถยึดได้ ตราบใดที่ยังไม่สามารถเข้าไปในวัด ซึ่งย้ำว่าจะเข้าไปเมื่อเวลาเหมาะสม สถานการณ์เอื้ออำนวย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ปิดประกาศแจ้งแก่วัดพระธรรมกาย ว่าสิ่งก่อสร้างเข้าข่ายผิดกฎหมาย ต้องยึดเป็นของกลางในคดี ตั้งแต่ปลายปี 2559 ตามกฎหมายพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กำหนดไว้ว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ปิดประกาศดังกล่าวแล้ว หากครบกำหนด 30 วัน นับแต่ปิดประกาศ ซึ่งตรงกับวันที่ 27 มกราคม นี้ หากไม่มีการดำเนินการใดๆ จากทางวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี จะต้องมีการพิจารณาเข้ายึดหรือค้น หรือห้ามใช้สถานที่ สิ่งปลูกสร้างที่ผิดกฎหมายดังกล่าวต่อไป ซึ่งอาจเป็นการประกาศห้ามเข้า และเชิญบุคคลที่อยู่ภายในออก ทั้งนี้เป็นดุลพินิจของผู้ว่าราชการจังหวัดว่าจะดำเนินการอย่างใด เมื่อใด โดยมีปัจจัยอื่นๆ เช่น ความปลอดภัย งบประมาณ ประกอบ ขณะนี้ตัวเองสั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินคดีทั้งหมดอย่างรอบคอบ และจะทยอยออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม นอกจากนี้จากการตรวจสอบ พบว่าวัดธรรมกายได้บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน ในจ.กระบี่จำนวน 80 ไร่ เพื่อทำสถานปฏิบัติธรรม โดยเจ้าหน้าที่เตรียมจะเข้ายึดพื้นที่คืนให้รัฐเร็วๆ นี้
มีรายงานว่า พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้รวบรวมคดี เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย โดยพบว่า ปัจจุบันมีการร้องทุกข์ดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 308 คดี ออกหมายจับไปแล้ว 8 ราย จำแนกเป็น ท้องที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 178 คดี เป็นคดีบุกรุก 16 คดี ความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก 20 คดี ฐานกีดขวางจราจร 5 คดี หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา 1 คดี ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 128 คดี พ.ร.บ.น้ำบาดาล 1 คดี พ.ร.บ.ป่าไม้ 4 คดี ขัดขวางเจ้าพนักงาน 2 คดี ฐานเอาทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดไว้ 1 คดี ในท้องที่นี้ ออกหมายจับนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์ 2 หมาย
คดีในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปราม มี 1 คดี เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี โดยออกหมายจับ นางสาว ดวงกมล ทองคณารักษ์ และน.ส.ทิพวรรณ์ สุจริยานุรักษ์
คดีในความรับผิดชอบของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) รวม 19 คดี เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ โดยเบื้องต้นศาลจังหวัดสีคิ้ว ออกหมายจับ พระธัมมชโยไปแล้ว คดีที่ สภ.อุ้มผาง จ.ตาก มี 1 คดีเป็นความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยศาลจังหวัดแม่สอด ออกหมายจับพระธาดา ตามหมายจับที่ จ. 142/59 ลง 15 สิงหาคม 2559 คดีที่ สภ.ภูเรือ จ.เลย มี 6 คดี เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 3 คดี คดีออกนส.3ก. โดยมิชอบ 2 คดี ผิดตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 1คดี ในนี้ออกหมายจับพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกาย รวม 2 หมาย และคดีที่ สภ.เกาะยาว จ.พังงา รวม 103 คดี จำแนกเป็น ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 98 คดี พ.ร.บ.ป่าไม้ 1 คดี พ.ร.บ.อาวุธ 1 คดี พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า(ปะการัง) 1 คดี ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยการตัดต้นไม้ขวาง 1 คดี และพ.ร.บ.วิทยุคมนาคมกรณีตั้งเสาวิทยุโดยไม่ได้รับอนุญาต 1 คดี