เยียวยาชาวใต้ถูกน้ำท่วม/รัฐบาลแจงการสร้างความปรองดอง

+++การเยียวยาช่วยเหลือชาวใต้จากสถานการณ์น้ำท่วม นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบมาตรการภาษี เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบ ด้วยการออกเป็นร่างกฎกระทรวงเพื่อยกเว้นภาษี แบ่งเป็น 2 กรณี คือ การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือค่าวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินที่ประกอบติดตั้งแบบถาวรกับตัวอาคารหรือที่ดิน และการซ่อมแซมห้องชุดในอาคารชุดหรือทรัพย์สินที่ประกอบติดตั้งแบบถาวรกับห้องชุด ในระหว่างวันที่ 1 ธ.ค. 2559-31 พ.ค. 2560 ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 1 แสนบาท

+++กรณีที่สองเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จ่ายเป็นค่าซ่อมแซมหรือค่าวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมรถยนต์ หรืออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกในรถที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมที่ได้จ่ายไประหว่างวันที่ 1 ธ.ค. 2559-31 พ.ค. 2560 ตามจำนวนที่จ่ายจริงเช่นกัน แต่เมื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 3 หมื่นบาท และทั้ง 2 กรณี จะต้องอยู่ในพื้นที่ที่ทางราชการประกาศให้เป็นพื้นที่เกิดอุทกภัยด้วย

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะลงพื้นที่ภาคใต้ 26 ม.ค.และสัปดาห์หน้าจะเป็นประธานการประชุมศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของชาติ โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงสถานการณ์และแผนงานการแก้ไขฟื้นฟู รวมถึงความเสียหายในเบื้องต้น เพื่อจัดสรรและเตรียมงบประมาณบริหารจัดการต่อไป  เบื้องต้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย เสนอแผนงานโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้อย่างยั่งยืน เช่น การขุดลอกคูคลอง สร้างคลองเส้นใหญ่ ขุดถนนทำท่อระบายน้ำ และก่อสร้างเส้นทางเบี่ยงน้ำ

+++นายออมสิน ชีวะพฤกษ์  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรัฐบาลรับมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้จากผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่ทำเนียบรัฐบาล

+++นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ครั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ประเมินว่า มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท พื้นที่ส่วน ใหญ่ที่ถูกน้ำท่วมเป็นพื้นที่ทางการเกษตร

+++ด้านนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าภาคใต้ ประเมินผลกระทบของผู้ประกอบการจากภัยน้ำท่วมภาคใต้ 12 จังหวัด แบ่งเป็น 2 กรณี คือหากปัญหาน้ำท่วมยุติได้ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ และสามารถฟื้นฟูสถานการณ์ได้เร็วภายใน 1-2 สัปดาห์เช่นกัน คาดว่าจะมีความเสียหาย 10,000-15,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.1 ของจีดีพีทั้งประเทศ แต่หากน้ำท่วมยืดเยื้อนาน 1-2 เดือน จะมีผลกระทบค่อนข้างมาก 85,000-1 แสน 20,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.5-0.7 ของจีดีพีประเทศ พืชเกษตรสำคัญที่เสียหาย คือ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน เนื่องจากหากน้ำท่วมเกิน 20 วัน ยางพาราจะตาย ต้องใช้เวลาปลูกใหม่ 8-10 ปี กว่าที่จะได้ผลผลิต หากท่วมเกิน 1 เดือน ปาล์มจะตาย ต้องใช้เวลาปลูกใหม่นานถึง 3-5 ปี ซึ่งระหว่างนี้จะทำให้ไม่มีผลผลิต เกษตรกรก็ไม่มีรายได้ ส่วนโค กระบือก็เสียชีวิต ทั้งจากน้ำท่วมและไม่มีหญ้ากิน

+++ด้านการท่องเที่ยว แม้ว่าโรงแรมและที่พักทางฝั่งอ่าวไทยจะได้รับผลกระทบจากการที่นักท่องเที่ยวยกเลิกจองห้องพักไปร้อยละ 10 แต่ส่วนใหญ่ปรับแผนไปเที่ยวฝั่งอันดามันแทน เพราะไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

+++18 ม.ค. ของทุกปีเป็นวันกองทัพบก เพื่อระลึกถึงเกียรติประวัติแห่งสมเด็จพระนเรศวร และเหล่าทหารหาญที่ร่วมรบป้องกันรักษาอธิปไตยของชาติ ให้มีเอกราชได้อย่างสมบูรณ์ ช่วงบ่าย  นายกฯ เป็นประธานประกอบพิธีทางศาสนา ที่กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก

+++เรื่องการสร้างความปรองดอง ที่ประชุมคสช. มีมติเห็นชอบให้ใช้มาตรา 44 ตั้งคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) โครงสร้างคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง มี 4 คณะอนุกรรมการ คือ คณะอนุกรรมการรับฟังความเห็น จำนวน 23 คน คณะอนุกรรมการจัดทำความเห็นร่วมเพื่อความปรองดองสมานฉันท์ 22 คน คณะอนุกรรมการจัดทำกระบวนการปรองดองสมานฉันท์ 17 คน และคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์ 17 คน ซึ่งรวมทั้งสิ้น 98 คน

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดองว่า ต้องมองจากสาเหตุ โดยพรรคการเมืองมีความขัดแย้งกัน ทั้งนี้ ขณะนี้บ้านเมืองมีความสงบแล้ว และต่อไปในอนาคตจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ จะไม่พูดถึงอดีตที่ผ่านมา ไม่พูดถึงนิรโทษกรรม และการอภัยโทษ ไม่พูดถึงเรื่องกฎหมายต่างๆ หรือปัญหาที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งต่อไป แต่จะมาพูดว่าจะอยู่กันอย่างไรต่อไป ก็ต้องตั้งคณะกรรมการอำนวยการเกี่ยวกับการปรองดองขึ้นมา 1 ชุด

+++จากนั้นจะกำหนดหัวข้อว่าจะเชิญพรรคการเมืองทั้งหมดมาอย่างไร คร่าวๆ กำหนดว่าจะมีสัก 10 หัวข้อ เช่น ความมั่นคง ยุทธศาสตร์ การปฏิรูป เศรษฐกิจ การต่างประเทศ ให้พรรคการเมืองพูดกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อได้หัวข้อต่างๆ ออกมาแล้ว จะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพื่อที่จะเรียกพรรคการเมืองมาเสนอทีละพรรค รวมถึงกลุ่มการเมืองด้วย คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1 เดือนในการให้แต่ละพรรคมาพูด แล้วคณะอนุกรรมการชุดนี้จะรวบรวมข้อมูลมาสรุป แล้วเชิญพรรคการเมืองทั้งหมดมาดูว่าเราสรุปอย่างไร และจะทำเป็นข้อคิดประชาสังคมร่วมกัน

+++คดีวัดพระธรรมกาย นายสุวพันธ์ ตันยุวรรณะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยหลังประชุมว่าที่ประชุมสรุปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เป็นเจ้าภาพหลักเพราะมีแผนรองรับอยู่แล้ว ทั้งการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย จากข้อมูลของดีเอสไอเชื่อว่าพระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย ส่วนโฆษกวัด อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ายังอยู่ในประเทศหรือไม่

+++พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีที่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกายเพิ่มอีก 2 ราย ในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร และขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เป็นระดับปฏิบัติการ แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ส่วนการดำเนินคดีกับวัดพระธรรมกาย ขณะนี้มีมากกว่า 300 คดีแล้ว เป็นคดีบุกรุกที่สาธารณะ ขัดขวางการปฏิบัติ อั้งยี่ ซ่องโจร รวมมีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับแล้ว 6 ราย หากพบกระทำอีกจะดำเนินการขอศาล ออกหมายจับอีก

+++คดีชิงทรัพย์โทรศัพท์ไอโฟนนายวศิน เหลืองแจ่ม บัณฑิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประสานมิตร และอดีตพนักงานภาคพื้นดินบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 รับสำนวนคดีของสองผู้ต้องหา คือ นายกิตติกร วิกาหะ และนายสุพัฒชัย จันทร์ศรี จากพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ได้ตั้งคณะทำงาน 3 คน พิจารณาสำนวนแล้ว มีคำสั่งฟ้องนายกิตติกรและนายสุพัฒชัย และเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาแล้ว ซึ่งศาลประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา และออกหมายเบิกตัวจำเลยทั้งสองจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมาสอบคำให้การในช่วงเช้าวันนี้ ทั้งนี้ อัยการขอให้ศาลลงโทษจำเลยทั้ง 2 สถานหนัก เนื่องจากหลังก่อเหตุคดีนี้ ในวันเดียวกันยังได้ก่อเหตุชิงทรัพย์ในท้องที่ สน.โชคชัย และวิ่งราวทรัพย์ในท้องที่ สน.โคกคราม ซึ่งเป็นภัยกับสังคม