ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่าการประชุม คสช. ว่าจะมีการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ในการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ซึ่ง คณะกรรมการดังกล่าวจะแบ่งเป็นด้านการปฏิรูปโดยการนำแผนของการปฏิรูป สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท. )มาบูรณาการ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ รวมไปถึงเรื่องการปรองดอง ที่จะให้พรรคเมืองและกลุ่มการเมืองมาทำ สัญญาประชาคมและสัจวาจา โดยยืนยันว่า การปรองดองขึ้นอยู่กับตัวของบุคคลและจิตใจว่าต้องการให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุขหรือไม่ โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับผู้ใด แต่เป็นผู้อำนวยการความสะดวก จัดเวทีพูดคุยเพื่อให้นักการเมืองเสนอแนวทางลดความขัดแย้ง ซึ่งไม่ใช่เป็นการบังคับ และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน พร้อมขออย่าพูดเรื่องนิรโทษกรรมในขณะนี้ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะมาพูดเรื่องดังกล่าว
สำหรับกระบวนการพูดคุยปรองดองพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายมั่น และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้บอกกับตนเองว่าการหารือกับพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองจะได้ข้อยุติภายในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน จึงขอว่าขณะนี้อย่าเพิ่งใจร้อน
นอกจากนั้น จะมีการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ในการแต่งตั้งคณะกรรมการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เนื่องจากจำเป็นต้องมีคณะกรรมการในการทำงาน 2 ระดับเพื่อขับเคลื่อนพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ในพื้นที่ตะวันออก เช่น ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี เพื่อทำให้เกิดมูลค่าในการลงทุนและสร้างรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งหากไม่ออกคำสั่งดังกล่าวจะต้องรอการออกพระราชบัญญัติอีกหลายเดือนซึ่งมำให้เกิดความล่าช้า ทั้งนี้หลายประเทศได้ให้ความสนใจใยการเข้ามาลงทุน หากรัฐบาลทำให้เกิดความชัดเจนหลายประเทศก็จะตัดสินใจเข้ามาลงทุนภายในปีนี้ ดังนั้นขอให้ทุกคนช่วยกัน อย่านำปรองดองมาเป็นประเด็น หากสังคมมองว่าการปฏิรูปและการปรองดองไม่สำเร็จก็จะมำให้ต่างชาติขาดความเชื่อมั่นได้
ขณะเดียวกันในวันนี้ได้ลงนามขอรับพระราชทานร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชามติเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขโดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการยกร่างให้เป็นไปตามข้อสังเกตพระราชทาน ทำการแก้ไขและปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นก็จะให้อาลักษณ์ เขียนบันทึกลงสมุดไทย
ผสข. ปิยะธิดา เพชรดี