การประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่าที่ประชุมได้หารือถึงการเตรียมความพร้อมการปรับปรุงพื้นที่และสภาพแวดล้อมบริเวณสนามหลวงหลังพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร (100 วัน) เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับสำหรับประกอบพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และก่อสร้างพระเมรุมาศ เบื้องต้นการก่อสร้างพระเมรุมาศ แบ่งการทำงานออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เป็นการล้อมรั้วด้านทิศใต้ ระยะที่ 2 ล้อมแนวเขตถึงถนนสายกลาง และระยะที่ 3 ล้อมแนวเขตผ่านแนวถนนสายกลาง พร้อมทั้งมอบหมายให้กรุงเทพมหานคร(กทม.) ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงาน กปร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือถึงแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่ให้เป็นไปตามขั้นตอน คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ สำหรับการบริหารจัดการเต็นท์ต่างๆ เพื่อไว้บริการประชาชน นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ 11 กระทรวงเป็นผู้รับผิดชอบและสนับสนุนการทำงาน โดยกทม.จะเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงาน รวมถึงการกำหนดและแบ่งความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวงอย่างชัดเจน
พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ หน่วยงานฝ่ายความมั่นคงได้มีการสนธิกำลังและจัดชุดสายตรวจกำกับดูแลความเรียบร้อย รวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับผู้กระทำผิดด้านต่างๆ อาทิ จอดรถในที่ห้ามจอด กักตุนอาหาร ซึ่งที่ผ่านมาได้นำผู้กระทำความผิดลงบันทึกประจำวัน และว่ากล่าวตักเตือนตามความเหมาะสมนอกจากนี้ ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2559 จนถึงปัจจุบันปริมาณขยะในพื้นที่ลดลงถึงร้อยละ 50 แต่ กอร.รส. ยังคงตั้งเป้าที่จะลดปริมาณขยะในพื้นที่ให้ได้ร้อยละ 100 พบว่าขยะที่จัดเก็บได้เป็นขยะที่มีการย่อยสลายยากถึงร้อยละ 37 ส่วนใหญ่จะเป็นขวดน้ำพลาสติก จึงได้มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้ขวดน้ำคนละ 1 ขวด รวมถึงนำขวดน้ำและภาชนะใส่อาหารส่วนตัวมาด้วย เพื่อเป็นการช่วยลดปริมาณขยะในพื้นที่ หากเป็นไปได้ขอความร่วมมือประชาชนได้นำอาหารติดตัวมาด้วยเอง เจ้าหน้าที่ดูแลและให้บริการได้ไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะบางคนที่ต้องทานยาตามเวลา แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทุกคนพยายามดูแลและให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่และดีที่สุด
แฟ้มภาพ