รัฐบาลน้อมนำกระแสพระราชดำรัส สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เร่งดูแลประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้

13 มกราคม 2560, 11:57น.


การประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อรายงานสถานการณ์และมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เฝ้า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เพื่อถวายรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ โดยทรงมีกระแสพระราชดำรัสให้เร่งให้ดูแลประชาชนที่เดือดร้อนให้เร็วที่สุด พร้อมจัดหาที่อยู่อาศัยให้ประชาชน ทั้งนี้ต้องบูรณาการแผน ไม่ต่างคนต่างทำ  รวมทั้งนำประสบการณ์ในครั้งที่ผ่านๆมา มาปรับใช้ พร้อมทรงรับสั่งว่าจะต้องมีการเปิดเส้นทางน้ำที่ดี ให้ไหลโดยธรรมชาติ ไม่กีดขวางทางน้ำไหล นอกจากนี้ในวันนี้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรี 5 คน ในฐานะ ผู้แทนพระองค์เข้าประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์และนำข้อมูลที่ได้ถวายรายงานต่อพระองค์เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือประชาชนต่อไป





ส่วนการแจ้งเตือนภัย นอกจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาแล้ว ยังมีเจ้าหน้าจากกระทรวงมหาดไทยในแต่ละที่เป็นผู้แจ้งต่อประชาชนด้วย ซึ่งในแต่ละหมู่บ้านจะมีการกระจายข่าวจากฝ่ายปกครอง ไปยังอำเภอ และมีวิทยุสื่อสาร แต่ในอนาคตอาจมีเครื่องมือติดต่อสื่อสารที่ดีขึ้น  ทั้งนี้จาการประเมินการแจ้งเตือน ยังคงมีประสิทธิภาพ ส่วนปัญหาอย่างหนึ่งต้องยอมรับว่า ประชาชนบางส่วนยังไม่ยอมออกจากบ้าน ทำให้การเข้าช่วยเหลือ หรือดูแล ไม่สะดวก จึงอยากให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่ที่จัดหาเพื่อสะดวกต่อการแจกอาหาร ส่วนการแจ้งเตือนภัยที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยืนยันว่า มีการแจ้งเตือนแล้ว ขออย่าให้สื่อนำไปพูดจนเข้าใจผิด ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมขึ้นทุกปี โดยเป็นน้ำที่ไหลบ่ามาจากภูเขาลงสู่ที่ต่ำ ส่วนมรสุมระลอกใหม่ที่กำลังจะเข้ามา ได้มีการสั่งการให้แจ้งเตือนไปยังประชาชนพร้อมเตรียมเครื่องมือ รวมทั้งมีการประเมินพื้นที่เสี่ยงเพื่อเตรียมอพยพและเตรียมแผนที่จะฟื้นฟูหลังน้ำลดด้วย  ทางด้านพื้นที่ของกรุงเทพมหานครได้มีการตรวจสอบข้อมูลจากเรดาร์เพื่อเตรียมการไว้ในทุกพื้นที่แล้ว ซึ่งมรสุมที่เกิดขึ้นอาจมีผลต่อภาคกลางตอนล่างด้วย



ส่วนมาตรการเยียวยาประชาชนในด้านการประกอบอาชีพ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเป็นผู้สำรวจความเสียหาย เบื้องต้นยังคงเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบด้านการเยียวยา ส่วนบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหาย จะมีหลักเกณฑ์ในการฟื้นฟูตามความเสียหายซึ่งจะต้องมีการหารือ วมทั้งให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจก่อน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่าเมื่อน้ำลดแล้วจะต้องมีการบูรณาการเจ้าหน้าที่จากทุกหน่วยงาน เข้าฟื้นฟูบ้านเรือนให้กับประชาชนโดยมีเจ้าหน้าที่ทหารเป็นหน่วยงานหลัก



ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม  



 

ข่าวทั้งหมด

X