รัสเซียปฏิเสธไม่มีข้อมูลที่สร้างความเสื่อมเสียแก่ว่าที่ปธน.คนใหม่สหรัฐฯ

11 มกราคม 2560, 21:12น.


บีบีซี รายงานอ้างนายดมิตรี เปสคอฟ โฆษกประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียว่า ผู้นำรัสเซียปฏิเสธคำอ้างของสื่อสหรัฐฯที่ระบุว่าหน่วยข่าวกรองรัสเซียมีข้อมูลส่วนตัวที่อาจจะสร้างความเสื่อมเสียแก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ เปรียบเทียบคำกล่าวหานั้นว่ามีเนื้อหาคล้ายภาพยนตร์ของฮอลลีวูดเรื่องพั๊ลพ์ ฟิคชั่น เขย่าชีพจรเกินเดือด และเป็นความพยายามอย่างชัดเจนที่จะทำลายสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง ก่อนหน้านี้มีคำอ้างที่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปของเรื่องระบุว่า ทีมรณรงค์หาเสียงของนายทรัมป์ มีการติดต่อสารอย่างลับๆกับรัฐบาลรัสเซีย รัสเซียมีข้อมูลเรื่องว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯพัวพันกับหญิงโสเภณีหลายคน



ด้านนายทรัมป์ ประณามรายงานดังกล่าว ระบุว่าเป็นข่าวเท็จโดยสิ้นเชิง มุ่งจะหาแพะรับบาปทางการเมืองโดยโยนความผิดให้กับรัสเซีย นายทรัมป์ ทวีตข้อความเพิ่มเติมว่ารัสเซียไม่เคยพยายามจะสร้างอิทธิพลเหนือเขาเนื่องจากเขาเองไม่เคยมีกิจที่ต้องติดต่อสัมพันธ์กับรัสเซีย คือไม่เคยทำข้อตกลงทางธุรกิจ ไม่เคยขอกู้เงินและไม่เคยติดต่อกันใดๆกับรัสเซียทั้งสิ้น ก่อนหน้านี้ หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯได้เผยแพร่รายงานลับฉบับหนึ่ง กล่าวหารัสเซียว่าอยู่เบื้องหลังการล้วงข้อมูลระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว เพื่อเปลี่ยนแปลงทิศทางการเลือกตั้งไปในทางที่จะให้นายทรัมป์จากพรรครีพับลิกันชนะนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต นอกจากนั้น มีรายงานทางสื่อของสหรัฐฯว่ารัสเซียมีข้อมูลที่อาจะสร้างความเสียหายเกี่ยวกับผลประโยชน์ทางธุรกิจและคลิปวีดีโอเชิงลามกอนาจารเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของนายทรัมป์



บีบีซี ระบุว่าประเด็นที่เป็นข่าวนี้ในสหรัฐฯตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา เป็นผลสืบเนื่องจากหนังสือบันทึกความจำฉบับหนึ่ง ซึ่งอดีตหน่วยข่าวกรองคนหนึ่งของอังกฤษมอบให้แก่องค์กรอิสระแห่งหนึ่งของสหรัฐฯที่มุ่งจะสกัดนายทรัมป์ไม่ให้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่หน่วยซีไอเอของสหรัฐฯกลับมองข้อครหาดังกล่าวว่ามีเหตุผลเชื่อถือ เช่นเดียวกับงานข่าวกรองอีกหลายชิ้นในอดีตที่สหรัฐฯให้ความสำคัญมากเช่นกัน แต่เจตนาเดิมของบันทึกนั้นเพียงแต่มุ่งจะทำลายโอกาสในการรับเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายทรัมป์แค่นั้นเอง บีบีซีได้เห็นเอกสารนั้นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แต่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปได้อย่างชัดเจนและมีหลายประเด็นที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง



ทีมต่างประเทศ



แฟ้มภาพ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X