ป.ป.ส.ใช้ยุทธการตัดวงจรทางการเงินเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ เครือข่าย นช.วรายุทธ แสงอรุณ

ตามนโยบายของนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มุ่งแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ครอบคลุมทั้ง 3 มิติ ทั้งในด้านการป้องกัน การปราบปราม และการบำบัดรักษา โดยในการปราบปรามให้มุ่งเน้นการทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญ และดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดของบุคคลในเครือข่าย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในฐานะหน่วยงานกลางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของชาติได้ดำเนินการขับเคลื่อนงาน โดยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ  วันพุธที่ 11 มกราคม 2560 เวลา 07.00 น. นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมกับ นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดเชียงราย พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รรท.ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ รรท.ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง พล.ต.ต.ธนยินทร์ เทพรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พ.ต.อ.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พล.ท.ดร.ธนเกียรติ ชอบชื่นชม ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พ.อ.นภดล ระวีวรรณ ผู้บังคับการกองพันทหารสารวัตร กองบัญชาการกองทัพไทย นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสิทธิศักดิ์ วัจนะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด นายธีระศักดิ์ พูลคล้าย ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 2 และนายวิชัย ไชยมงคล ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 5 ร่วมอำนวยการเปิดยุทธการ ป.ป.ส. บูรณาการตัดวงจรทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด ครั้งที่ 1 เครือข่าย นช.วรายุทธ แสงอรุณ เพื่อดำเนินการในมิติด้านการปราบปราม และยึดทรัพย์สินเครือข่ายรายสำคัญสืบเนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เรือนจำกลางระยอง สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำมีพฤติการณ์ลักลอบค้ายาเสพติด จึงได้ประสานมายัง สำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนขยายผลต่อกลุ่มเครือข่ายผู้ต้องขังดังกล่าวต่อมา

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2559 สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้สนธิกำลังเปิดปฏิบัติการ เพื่อดำเนินการต่อบุคคลในเครือข่าย นช.วรายุทธ แสงอรุณ ผู้ต้องขังในเรือนจำเขาบิน และเครือข่ายภายนอกเรือนจำ ดำเนินการจับกุมบุคคลในเครือข่ายได้ 10 ราย ยึดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งจากการปฏิบัติการดังกล่าว พบหลักฐานเพิ่มเติมจนสามารถขยายผลไปยังกลุ่มเป้าหมายในเครือข่ายรายอื่นที่ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติม จึงได้กำหนดเป็นยุทธการฯ เข้าปฏิบัติการใน 3 จังหวัด รวมพื้นที่ปฏิบัติการ 9 เป้าหมาย ดังนี้- จังหวัดชลบุรี 3 เป้าหมาย- จังหวัดสมุทรปราการ 1 เป้าหมาย- จังหวัดเชียงราย 5 เป้าหมาย

ผลการปฏิบัติ 1. จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 5 คน ได้แก่(1)  นายไพรัตน์ สกุลเผือก อายุ 33 ปี ที่อยู่ 172/26 หมู่ 9 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี (2)  นายสมชาย จันทร์ทรัพย์ อายุ 37 ปี ที่อยู่ 17 หมู่ 1 ต.เกาะลอย อ.พานทอง จ.ชลบุรี(3)  น.ส.สุวาลี คีรยากุล ที่อยู่ 108 หมู่ 4 ต.ตาดควัน อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย (4)  นายจะคือ กาวสี ที่อยู่ 123 หมู่ 10 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย(5)  น.ส.นาซู ลีซา ที่อยู่ 123 หมู่ 10 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย2. ยึดทรัพย์สิน จำนวน 47 รายการ ประกอบด้วย บ้าน 9 หลัง, โฉนดที่ดิน 4 แปลง, รถยนต์ 10 คัน, รถจักรยานยนต์ 11 คัน, อาวุธปืน 2 รายการ, บัญชีเงินฝาก 9 รายการ, ทองแท่งและทองรูปพรรณ มูลค่าประมาณ 1.6 ล้านบาท และเงินสด 1.8 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สิน 65 ล้านบาท

นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า ยุทธการดังกล่าว เป็นการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 (มาตรการสมคบ) โดยขยายผลจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องและยึดทรัพย์สิน เพื่อทำลายเครือข่ายและโครงสร้างการค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือ พื้นที่ภาคกลาง พื้นที่ภาคตะวันออก ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดของประเทศ

CR:ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ป.ป.ส.