หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กล่างถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ว่า การแก้ปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ได้มีการน้อมนำพระราชกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ให้แก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ดีที่สุด โดยได้พระราชทานสิ่งของเพื่อช่วยเหลือประชาชนจำนวนมากผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ภาคใต้ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งรัฐบาลก็จะเร่งดำเนินการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ด้านมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ก็จะเป็นไปตามระเบียบและหลักเกณฑ์ตามกฎหมายที่กำหนด ส่วนการช่วยเหลือป็นกรณีพิเศษจะมีคณะกรรมการสำรวจความเสียหายหลังจากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ นายกรัฐมนตรี มองว่าปัญหาสำคัญคือ การสร้างสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางน้ำ ทำให้ต้องปฏิรูปแก้กฎหมายทั้งกฎหมายผังเมืองและการก่อสร้างอาคาร รวมทั้งระบบการระบายน้ำ เพราะที่ผ่านยังไม่การดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ส่วนการอพยพประชาชนมีแผนการดำเนินงานอยู่แล้วแต่ปัญหาคือประชาชนบางคนไม่ยอมออกจากพื้นที่จึงทำให้เกิดมีปัญหาในการนำเรือออกไปส่งอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนเห็นใจการทำงานของรัฐบาลและตนเองก็เคยเป็นผู้บังคับบัญชาทหารบกมากก่อนซึ่งเคยแก้ปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี2554 มาแล้วและนำมาเป็นประสบการณ์ในการแก้ปัญหาในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการลงพื้นที่ เพื่อตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ว่าส่วนตัวไม่ต้องการที่จะลงไปเนื่องจากจะลำบากเจ้าหน้าที่ในการทำงานที่จะคอยต้อนรับตนเอง ซึ่งจากนี้จะพยายามให้หน่อยงานในพื้นที่ดำเนินการด้วยตนเองแต่หากมีปัญหาอะไรให้ขอความช่วยเหลือมาที่ตนได้โดยตรง
นายกรัฐมนตรียังแนะนำถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ว่าหากตัองการช่วยเหลือให้บริจาคเป็นเงินเพื่อที่จะนำไปแบ่งจัดสรรให้แต่ละพื้นได้ซื้อสิ่งของที่จำเป็นดีกว่าการนำสิ่งของมาบริจาคเนื่องจากมีปัญหาในการขนส่งลำเลียงเข้าไปในพื้นที่และของบางอย่างอาจไม่ตรงตามความต้องการของผู้ประสบภัย
ส่วนสาเหตุน้ำท่วมภาคใต้ครั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ระบบการแจ้งเตือนภัยพิบัติ ทำงานช้าประชาชนไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้านายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ระบบแจ้งเตือนภัยยังใช้การได้ปกติ ไม่ได้แจ้งเตือนช้าตามที่เป็นข่าว