รายงานข่าวจากสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) แจ้งว่า สนข.สรุปผลสำรวจอัตราความเร็วเฉลี่ยของรถยนต์ส่วนบุคคลในกรุงเทพฯที่เก็บข้อมูลระหว่างเดือน ก.ค.-ต.ค. 59 ด้วยการบันทึกหมายเลขป้ายทะเบียนรถยนต์ (LicensePlate Method) บนถนนสายหลักต่างๆ ในกรุงเทพฯรวม 6 พื้นที่ไม่รวมถนนวงแหวนชั้นใน (รัชดาภิเษก) ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 10 ปี สรุปความเร็วรถในภาพรวมปี 59 ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า 06.00-09.00 น. ความเร็วเฉลี่ย 14.9กม.ต่อชม. ช่วงเร่งด่วนเย็น 22.1 กม.ต่อชม. เมื่อเปรียบเทียบกับปี58 ความเร็วช่วงเร่งด่วนเช้า (ขาเข้าเมือง)ลดลงเฉลี่ยประมาณ 0.1 กม.ต่อชม. หรือร้อยละ 0.7 (จาก15.0 กม.ต่อชม. เหลือ 14.9กม.ต่อชม.) ขณะที่เร่งด่วนเย็น 16.00-19.00 น.(ขาออกเมือง) อัตราความเร็วเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 0.1กม.ต่อชม. หรือร้อยละ 0.5 (จาก 22.0กม.ต่อชม. เป็น 22.1 กม.ต่อชม.)
5อันดับถนนที่มีการจราจรติดขัดมากที่สุดช่วงเร่งด่วนเช้าได้แก่ 1. ถนนกรุงธนบุรี ช่วงกรุงธนบุรี-สุรศักดิ์ความเร็วเฉลี่ย 5.8กม.ต่อชม. 2.ถนนพระราม 9ช่วงรามคำแหง-พระราม 9 ความเร็วเฉลี่ย 8.1กม.ต่อชม. 3.ถนนบรมราชชนนี ช่วงสายใต้ใหม่-บรมราชชนนี 9.7กม.ต่อชม. 4.ถนนเจริญกรุง ช่วงถนนตก-สุรวงศ์ 9.8 กม.ต่อชม. และ 5.ถนนราชวิถีชั้นในช่วงอุภัย-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 11.2 กม.ต่อชม.
ขณะที่ 5 อันดับ ถนนที่มีการจราจรติดขัดมากที่สุดช่วงเร่งด่วนเย็น ได้แก่ 1.ถนนสุขุมวิทชั้นในช่วงนานา-อโศก 7.5กม.ต่อชม. 2.ถนนราชวิถี ช่วงอุภัย-บางพลัด 8.5 กม.ต่อชม. 3.ถนนพญาไทช่วงสามย่าน-อนุสาวรีย์ชัยฯ 9.0กม.ต่อชม. 4.ถนนเจริญกรุง ช่วงสุรวงศ์-ถนนตก 9.1 กม.ต่อชม. และ 5.ถนนพระราม9 ช่วงพระราม 9-รามคำแหง 9.6กม.ต่อชม. ทั้งนี้สำหรับถนนกรุงธนบุรีช่วงกรุงธนบุรี-สุรศักดิ์ เมื่อปี 58 ก็ติดอับดับ1 ความเร็วเฉลี่ยแค่ 5.1 กม.ต่อชม. ส่วนช่วงเร่งด่วนเย็นเมื่อปี58 อันดับ1คือ ถนนสาทร ความเร็วเฉลี่ย 6.4กม.ต่อชม.
สรุปภาพรวมการจราจรในปี 59 มีปัญหาการจราจรติดขัดไม่ต่างจากปี 58เนื่องจากมีการเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ เปิดใช้ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ถนนเชื่อมต่อถนนจรัญสนิทวงศ์-ถนนกาญจนาภิเษกและทางลอดใต้ทางแยกถนนตากสิน ถนนรัชดาภิเษก (แยกมไหสวรรย์) ซึ่งช่วยกระจายการจราจรในภาพรวมของกรุงเทพฯแม้ในปี 59 จะมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนรถยนต์จากสถิติจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ ช่วงเดือน ม.ค.-ต.ค. 59เฉลี่ยวันละ 1,119 คัน เมื่อเทียบกับปี 58สถิติการจดทะเบียนรถใหม่อยู่ที่ 1,023 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ย 96คันต่อวัน หรือร้อยละ 9.4ซึ่งการเพิ่มขึ้นของรถจดทะเบียนใหม่ในกรุงเทพฯยังมีอัตราเพิ่มที่ใกล้เคียงกันส่งให้จำนวนรถสะสมในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้นทุกปีขณะที่การก่อสร้างโครงข่ายถนนและทางด่วนเพิ่มเติมยังดำเนินการได้ล่าช้าส่วนราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อเทียบกับราคาย้อนหลังในหลายปีที่ผ่านมาราคาลดลงประมาณลิตรละ 10-15 บาท หรือประมาณร้อยละ 30ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจใช้รถยนต์ส่วนบุคคลที่มีอยู่มากขึ้น
แฟ้มภาพ