ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
++++เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) เผยแพร่คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่ 7/2559 เรื่องเปลี่ยนแปลงรายชื่อคณะที่ปรึกษาคสช. ดังนี้ 1.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธาน 2.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รองประธาน 3.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา 4.นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา 5.นายอำนวย ปะติเส ที่ปรึกษา 6.พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ที่ปรึกษา 7.พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่ปรึกษาและเลขานุการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.2559
+++โกงกันอีก คณะกรรมการรับสมัครและสอบคัดเลือกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบทุจริตการสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยพบว่ามีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ แอบทำข้อสอบเพื่อให้ผู้เข้าสอบรายอื่นๆ คัดลอกเพื่อให้ผ่านการคัดเลือก การทุจริตดังกล่าวตรวจพบใบคำตอบของผู้ที่ได้คะแนนต่ำสุดคือ 13 คะแนน จากคะแนนเต็ม 150 คะแนน แต่มีการเขียนโพยคำตอบในด้านหลังที่ถูกหมดทุกข้อ ยังพบอีกว่าคำตอบที่เขียนในข้อที่ถูกไว้อยู่ในลักษณะที่ใหญ่กว่าผิดปกติ ทำให้บุคคลรอบข้างสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะไกล และยังพบใบคำตอบในลักษณะเดียวกันอีกจำนวนหนึ่งด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัว ผู้สมัครสอบที่เป็นเจ้าของใบคำตอบเข้ามาสอบปากคำในฐานะพยานรวม 15 คน และพบว่าเป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
+++พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน กำกับการศูนย์ฝึกอบรม บช.น. กล่าวว่า เบื้องต้นตรวจสอบการทุจริตดังกล่าวพบว่ามีข้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานครนายหนึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยจะว่าจ้างกลุ่มนักศึกษา หัวกะทิจากคณะข้างต้นให้เข้ามาทำการสอบ หรือที่เรียกว่ามือปืนรับจ้าง โดยจ่ายค่าจ้างให้คนละ 2-3 หมื่นบาท จากนั้นจะเรียกเก็บจากผู้สมัครสอบรายอื่นๆ ที่สนใจจะลอกข้อสอบที่ราคาคนละ 5 แสนบาท พร้อมการันตีว่าสอบผ่านได้จริง นอกจากนี้ ในส่วนเลขที่นั่งสอบก็จะนัดแนะผู้สมัครให้ไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมการสอบกับธนาคารในเวลาใกล้เคียงกันเพื่อจะได้เลขที่นั่งสอบใกล้ๆ กัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางกลุ่มผู้จ้างวานได้เป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ก่อนจะเริ่มการสอบ 3 วัน ผู้จ้างวานก็จะนัดผู้ที่ทำหน้าที่เฉลยข้อสอบ และผู้ที่จะลอกข้อสอบให้มาพบกัน เพื่อนัดแนะวิธีการกันให้เข้าใจก่อนที่จะเข้าสนามสอบ
++++ในวันนี้ จะนำเรื่องเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการสอบคัดเลือกของ บช.น. ซึ่งมี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เป็นประธาน เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นให้การสอบคัดเลือกครั้งนี้เป็นโมฆะ รวมทั้งจะดำเนินคดีกับผู้ใดบ้าง ทั้งตัวผู้จ้างวาน และผู้ที่ร่วมทุจริตทั้งหมด การสอบคัดเลือกนักเรียนนายสิบตำรวจทั่วประเทศดังกล่าว ทำการสอบไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2559 โดยรับสมัครบุคคลภายนอก อายุระหว่าง 18-27 ปี วุฒิการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือ ปวช. หรือเทียบเท่า ในส่วนของ บช.น. ได้เปิดรับ 1,000 อัตรา และมีผู้สมัครสอบกว่า 1.3 หมื่นคน และได้สอบผ่านการคัดเลือกไปแล้วรวม 1,800 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติ โดย บช.น.ใช้สนามสอบที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก และที่วิทยาเขตบางนา
+++เกาะติดประเด็นการเมือง การเลื่อนโรดแมพหรือการเลื่อนเลือกตั้งไปเป็นกลางปี 2561 ที่มีการวิจารณ์กันมากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าถ้าคำนวนกันดีๆเลือกตั้งจะเกิดปี 2560 หรือปี 2561 ได้ทั้งนั้นไม่ได้หลุดจากโรดแมพ เพราะหากนักจากวันรัฐธรรมนูญประกาศสมมติว่าเป็นเดือนก.พ. ก็ต้องนำบวก 240 วันและ 150 วัน ก็จะเข้าปี 2561 ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่จะเป็นปีไหนขึ้นกับความรวดเร็วของการทำงาน อย่าไปวิตกกังวลจนเกินเหตุ ยกเว้นเสียแต่เขาจะบอกว่าไม่เอาแล้วโรดแมพอย่างนั้นอีกเรื่องหนึ่ง ผมก็เข้าใจว่าถึงวันนี้นายกฯก็ยังยืนยันว่าเป็นไปตามโรดแมพ นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ยืนยันว่าการพิจารณาทำกฎหมายลูกจะเป็นไปตามกรอบที่รัฐธรรมนูญใหม่กำหนด คือ จัดทำภายใน 8 เดือน หรือ 240 วัน โดยเวลาที่กำหนดนั้นถูกคิดบนฐานของโร้ดแมพของรัฐบาลคือจัดการเลือกตั้งภายในปี 2560 ไม่ได้คิดในประเด็นอื่นๆ แต่เมื่อมีสถานการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะความเหมาะสมระหว่างมีงานพระราชพิธีสำคัญ เป็นเรื่องที่ทราบกันอยู่ แต่จุดนี้ผมยืนยันว่า การทำงานของกรธ. จะไม่เกินกว่าเวลาที่ร่างรัฐธรรมนูญใหม่กำหนด
+++ความเคลื่อนไหวแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นางธิดา ถาวรเศรษฐ และ นพ.เหวง โตจิราการ ฯลฯ เยี่ยมอาการนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ที่ป่วยด้วยโรคกรวยไตอักเสบ และเพิ่งถูกย้ายออกจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เนื่องจากแพทย์วินิจฉัยว่าอาการดีขึ้น นายจตุพรเดินออกมาจากแดน 1 ในสภาพที่ซูบซีดอิดโรย กล่าวกับผู้สื่อข่าวผ่านโทรศัพท์ประจำห้องเยี่ยมของเรือนจำด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างแผ่วเบาว่า เท่าที่ทราบมา สาระสำคัญของอาการป่วยที่เป็นอยู่ คือต้องให้ยาให้ครบตามจำนวนวัน มิฉะนั้นเชื้ออาจดื้อยาแล้วกลับมา จะเป็นปัญหาใหญ่ เดิมแพทย์บอกจะให้ยาฉีดถึงวันที่ 16 ม.ค. แต่ขณะนี้เปลี่ยนเป็นให้ยาฉีดยาถึงวันที่ 7 ม.ค. จากนั้นก็ให้เปลี่ยนมาเป็นยาแบบทานแทน ยอมรับว่าการอยู่ในคุกไม่ใช่สถานที่ที่จะอยู่แล้วสุขสบาย แต่เมื่อมีคนที่เจ็บป่วยขึ้นมาก็ไม่ควรเอาเรื่องทางการเมืองมาแก้ปัญหา ควรใช้หลักการดูแลสุขภาพมาแก้ปัญหามากกว่า ผมไม่ได้กลัวว่าจะต้องตาย แต่เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ว่ากับผมหรือว่าใคร
+++ด้านนายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า สิทธิในการให้การรักษาผู้ต้องขังนั้น หากผู้ต้องขังมีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยเราก็จะส่งตัวรักษายังสถานพยาบาลของเรือนจำ แต่ถ้ามีอาการป่วยหนัก ก็จะต้องส่งตัวออกมารักษายังทัณฑสถานโรงพยาบาล อาการของนายจตุพรไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว เป็นปกติ สามารถเดินเหินได้ นอนหลับ พูดคุยรู้เรื่อง ส่วนการดูแลผู้ต้องขังนั้น ก็ดูแลทั่วไป ทั้งการกิน นอน และการเยี่ยมญาติ ซึ่งเราให้สิทธิเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป
+++นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ) เปิดเผยว่า นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม ได้เชิญกรมการขนส่งทางบก (ขบ) หารือเกี่ยวกับแผนการพัฒนาความปลอดภัยรถตู้โดยสารสาธารณะ โดย รมช.คมนาคม ต้องการให้กรมการขนส่งทางบก เร่งรัดระยะเวลาการปรับเปลี่ยนรถตู้โดยสารเป็นรถไมโครบัสขนาด 20 ที่นั่ง ภายในระยะเวลา 6 เดือนต่อจากนี้ หรือเริ่มตั้งแต่กลางปี 2560 โดยเร็วกว่าแผนเดิมที่ตั้งเป้าหมายให้ทยอยเริ่มปรับเปลี่ยนตั้งแต่ปี 2561-2564 ในระยะแรกจะเร่งรัดให้ปรับเปลี่ยนรถตู้โดยสารหมวด 2 วิ่งระหว่างกทม - ต่างจังหวัด ปัจจุบันมีประมาณ 5 พันคัน จากนั้นในระยะที่ 2 จะปรับเปลี่ยนรถตู้โดยสารหมวด 3 วิ่งระหว่างจังหวัด-จังหวัด เนื่องจากเห็นว่ารถตู้ไม่เหมาะสมและปลอดภัยในการนำมาเป็นรถโดยสาร โดยจะหารือร่วมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว คมนาคม ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และแนวทางที่เหมาะสมควรจะเป็นอย่างไร
++++นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยร่วมกับหน่วยงานทีมประเทศไทยในต่างประเทศ ติดตามการรายงานข่าวที่บิดเบือนที่ส่งผล กระทบต่อภาพลักษณ์คุณภาพสินค้าไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจและเอาผิดกับผู้เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จตามกฎหมายท้องถิ่น กรณี ารส่งข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ รวมทั้งสื่อต่างประเทศบางสำนักรายงานว่า ทางการไทยประกาศแจ้งเตือนห้ามบริโภคอาหารกระป๋อง โดยเฉพาะผลไม้กระป๋องที่ผลิตในประเทศไทย เนื่องจากมีการปนเปื้อนเชื้อเอชไอวีนั้น ขอยืนยันว่าข้อความดังกล่าวเป็นเท็จที่เคยปรากฏเป็นระยะในสื่อออนไลน์ช่วงปี 2556-2557 ในหลายประเทศ อาทิ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ และกลับมาเผยแพร่อีกครั้งหนึ่งช่วงปลายปี 2559 ถึงปัจจุบัน
+++พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ชี้ว่า คนทำผิดควรจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าปรับจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.05 ล้านบาท) กรณีที่มีแฟนบอลจุดพลุแฟลร์ในสนาม เกมเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง ที่ "ช้างศึก" เปิดราชมังคลากีฬาสถาน ชนะ อินโดนีเซีย 2-0 เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2559 เบื้องต้นทางสมาคมต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าปรับไปก่อนภายใน 30 วัน คณะกรรมการวินัยสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ได้แจ้งเตือนว่าหากยังมีการละเมิดข้อบังคับดังกล่าวซ้ำในการแข่งขันของฟีฟ่าและเอเอฟซี จะมีการลงโทษในขั้นที่สูงกว่าการปรับเงิน ดังนั้นเพื่อไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีก แฟนบอลต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของฝ่ายจัดการแข่งขัน