สรุปข่าว19.35น.
+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีกำหนดเดินทางไปยังจังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง และประชุมกรอ.กลุ่มจังหวัด ในวันที่ 6 ม.ค. โดยเวลา 07.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางจากท่าอากาศยาน บน.6 ดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส จากนั้นเดินทางด้วยรถยนต์ไปยังศาลากลางจังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นประธานการประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ห้องปฏิบัติงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ชั้น 2 ศาลากลาง จังหวัดนราธิวาส ก่อนเป็นประธานประชุมด้านความมั่นคงและกรอ.กลุ่มจังหวัด ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ในตอนบ่าย นายกฯและคณะ เดินทางด้วยรถยนต์ไปที่ว่าการอำเภอระแงะ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนจำนวน 1,000 คน และพบปะพูดคุย นอกจากนี้นายกฯจะเดินไปที่มัสยิดกลาง อำเภอระแงะ เพื่อมอบถุงยังชีพแก่ประชาชน จำนวน 1,000 คน ก่อนจะเดินทางไปยังท่าอากาศยานราธิวาส เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ ในเวลา 16.20 น.
+++สถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ซึ่งมีตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า มาตรการทั้งหมดดีอยู่แล้ว ทั้งการตั้งจุดตรวจ ยึดรถและการบังคับใช้กฎหมาย ที่มากกว่าเดิม แต่เนื่องจากผู้ขับขี่ยังคงดื่มสุรา และขับรถเร็วเกินกำหนด ซึ่งจะต้องดูว่าจะทำยังไงให้คนมีวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนให้ดีขึ้น และจุดที่น่าสังเกต คือ วันธรรมดามีจำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนน ประมาน 40 คนต่อวัน เมื่อเทียบกับในช่วงเทศกาลมีตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน และเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ส่วนการแก้ไขพรบ.จราจรทางบก ได้ผ่านความเห็นของที่ประชุมครม.แล้ว และอยู่ระหว่าง ที่แต่ละกระทรวงจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม สนช. พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ การบังคับใช้มาตรการบางเรื่องจำเป็นต้องใช้ มาตรา 44 เพื่อความรวดเร็ว เพราะหากรอออกเป็น พรบ. จะใช้เวลานาน
+++กรณีมีผู้โพสต์คลิปกล่าวหาข้าวหอมมะลิไทยผสมพลาสติกน.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อขอหารือเรื่องการดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่โพสต์คลิปดังกล่าว แล้ว มั่นใจว่าจะสามารถป้องปรามไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นอีก เพราะกฎหมายของสหรัฐฯ มีความเข้มแข็งและมีบทลงโทษแรงกรณีมีผู้กระทำการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จขณะเดียวกัน ภาคเอกชนทั้งผู้นำเข้าและผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิแบรนด์ที่เป็นปรากฏอยู่ในคลิปดังกล่าวนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว เพราะถูกนำตราสินค้าไปใช้ในทางเสียหาย
+++นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงตลาดหุ้นไทยเปิดทำการต้นปีอยู่ในแดนบวกว่า ถือเป็นสิ่งที่ดี สะท้อนถึงความสนใจของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทย เพราะเชื่อมั่นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยหลังจากนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และภาคอุตสาหกรรม ต้องพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นผ่านการเพิ่มจำนวนบริษัทเข้ามาจดทะเบียน และผลักดันให้ผู้ประกอบการกลุ่มสตาร์ทอัพเข้าสู่ตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น
+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,571.05 จุด เพิ่มขึ้น 7.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 69,364.44 ล้านบาท นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีฯปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ค่อนข้างผันผวน โดยมีแรงขายของกองทุน รวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ออกมา อย่างไรก็ตามดัชนีฯยังคงปรับตัวขึ้นได้ จากแรงหนุนของการกลับมาซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ยังมีกระแสเงินไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากนิกเกอิพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 73.47 จุด ที่ 19,520.69 จุด
+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์ก ภายหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. ที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจขยายตัวอย่างรวดเร็วภายใต้การนำของของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและบริษัทประกันที่ดีดตัวขึ้น ดัชนีฮั่งเส็งทะยาน 322.22 จุด ที่ 22,456.69 จุด ฮั่งเส็งยังได้รับแรงหนุนหลังจากที่จีนเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน อยู่ที่ระดับ 53.4 ในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 53.1 ในเดือนพ.ย.
++++ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนธันวาคม 2559 นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงว่า ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยดัชนีความเชื่อมั่นเทียบเดือนพฤศจิกายนดีขึ้นทุกตัว ตั้งแต่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมอยู่ที่ 73.7 จากเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ 72.3 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบัน อยู่ที่ 52.1 จาก 50.8 การปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปลายปี ผลกระทบจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญเริ่มคลี่คลายขึ้น นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเข้ามาท่องเที่ยว การส่งออกที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะยางพารา ทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ส่งผลให้ผู้บริโภคมีอำนาจซื้อมากขึ้นและมีความพร้อมในการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปีมากขึ้น ส่วนการใช้จ่ายในช่วงปีใหม่คาดว่าจะมีเงินสะพัดประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ตามเป้าที่เคยคาดการณ์ไว้ โดยจะสังเกตได้จากบรรยากาศการเฉลิมฉลองช่วงปีใหม่ที่มีความคึกคัก การเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัดที่เพิ่มขึ้น ยอดขายโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2559
+++พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การดำเนินคดีการปล่อยเงินกู้นอกระบบเครือข่ายของนายวิชัย ปั้นงาม ผู้ต้อง หาตามหมายจับ ว่า หลังจากได้เรียกประชุมร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อวิเคราะห์ธุรกรรมหาบุคคลที่มีธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวข้องทั้งหมด พบว่า มีรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง 2 ชุด ชุดแรกคือเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายที่มีส่วนได้เสียรับเงินจากขบวนการของ ‘ชุดที่2 เป็นบุคคลที่อยู่สูงกว่านายวิชัย เป็นบุคคลมีชื่อเสียงในสังคม รวมอีกประมาณ 2-3 คน หนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงเคยเล่นการเมือง ตรวจสอบพบมีการโอนเงินถึง 46.6 ล้านบาทมาให้นายวิชัย จากนี้จะให้ทางปปง.ไปตรวจสอบเส้นทางธุรกรรมทางการเงินเพิ่มเติม เพราะส่งเรื่องมาล่าสุดถึงช่วงกุมภาพันธ์ 2558 และเมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนจะทำเรื่องออกหมายเรียกผู้มีรายชื่อดังกล่าวเข้ามาชี้แจง ส่วนนายวิชัยได้รับการประสานจากทนายความนายวิชัยว่า ยังคงอยากมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ แต่ขณะนี้ยังอยู่ที่กัมพูชา เมื่อพร้อมจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินตามกฎหมาย เรื่องนี้ที่นายวิชัยยังไม่ยอมเข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่เชื่อว่า น่าจะรอการตัดสินใจอยู่ใน 2 ประเด็น กลัวว่าจะสาวไปถึงบุคคลที่อยู่เหนือกว่านายวิชัย และ กลัวว่าจะไม่ได้รับการประกันตัว ประเด็นนี้ ได้คุยกับทางดีเอสไอ แล้ว ว่าเป็นคดีที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก หากให้ประกันตัวเกรงว่าจะออกไปข่มขู่ลูกหนี้ที่มีกว่า 170,000 คนทั่วประเทศ ล่าสุดพบมีรายกว่า มีลูกหนี้บางพื้นที่มีคนมาข่มขู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นในพื้นที่ห่างไกลที่ตำรวจเข้าไปไม่ถึง จึงได้ประสายท้องถิ่นเข้าไปดูแล