ผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในอังกฤษ พบผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ถนนใหญ่ซึ่งมีการจราจรพลุกพล่าน เสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อม

05 มกราคม 2560, 15:52น.


ผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในนิตยสารแลนเซตของอังกฤษบ่งชี้ว่าคนที่อาศัยอยู่ใกล้ถนนหลักๆที่การจราจรพลุกพล่านมากเสี่ยงเป็นโรคสมองเสื่อมในอัตราสูงมาก ผลศึกษาพบว่า ร้อยละ 10 ของคนที่เป็นโรคสมองเสื่อมอาศัยอยู่ในระยะห่าง 50 เมตรจากถนนหลักๆ  รายงานนี้เป็นผลจากการวิจัยกลุ่มประชากรตัวอย่างเกือบ 2 ล้านคนในรัฐออนแทรีโอ เป็นเวลา 11 ปีคือระหว่างปี 2544-2555 พบว่ามีผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อม 243,611 รายในช่วงเวลานั้น แต่คนที่อยู่อาศัยใกล้ถนนใหญ่มีโอกาสเสี่ยงมากกว่าปกติ ด้านองค์การอนามัยโลกระบุว่าในปัจจุบันมีคนป่วยโรคสมองเสื่อม 50 ล้านคนทั่วโลกและมีผู้ป่วยรายใหม่ราว 7,700,000 คนต่อปี



ดร.ฮอง เฉิน จากสำนักงานสาธารณสุขประจำรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา และหนึ่งในผู้เขียนรายงานเรื่องนี้กล่าวว่าการเติบโตของจำนวนประชากรและพื้นเมืองทำให้คนจำนวนมากต้องอาศัยอยู่ใกล้ถนนใหญ่ที่มีการจราจรคับคั่ง เพิ่มเติมว่าปัญหาภาวะสมองเสื่อมอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ด้านสาธารณสุขในอนาคต โดยผลกระทบจากเสียงรถยนต์ที่แล่นตามท้องถนน อนุภาคฝุ่นที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 0.1 ที่เรียกว่าอัลตราไฟน์ ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ และฝุ่นละอองเล็กๆจากการที่ล้อรถเสียดสีกับท้องถนน ก็อาจจะเป็นปัจจัยร่วม



ด้านศาสตราจารย์ทอม เดนิง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสมองเสื่อม มหาวิทยาลัยน็อตติงแฮม อังกฤษ เพิ่มเติมว่าเรื่องนี้อาจจะสร้างความไม่สบายใจให้กับคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณชุมชนที่การจราจรคับคับมากๆ เขาแนะนำวิธีการลดความเสี่ยงไม่ให้ป่วยด้วยโรคสมองเสื่อม ด้วยการหมั่นดูแลสุขภาพ เลิกบุหรี่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ข่าวทั้งหมด

X